Archive | มีนาคม, 2021

มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อพัฒนาคนพิการ… เผยยอดบริจาคลดลงมากส่งผลกระทบต่อการทำงาน ชวนบริจาคด่วน! เพื่อส่งเสริมให้น้องๆ มีอาชีพและช่วยเหลือตัวเองได้

มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อพัฒนาคนพิการ… เผยยอดบริจาคลดลงมากส่งผลกระทบต่อการทำงาน ชวนบริจาคด่วน! เพื่อส่งเสริมให้น้องๆ มีอาชีพและช่วยเหลือตัวเองได้

Posted on 24 มีนาคม 2021 by writer

          คนพิการ ไม่ใช่ผู้ไร้ความสามารถ แต่เป็นผู้มีศักยภาพ หากได้รับการส่งเสริมและโอกาสที่ดีจากสังคม จะเห็นได้จากมีคนพิการมากมายที่สามารถประกอบอาชีพดำเนินชีวิตและสร้างรายได้ช่วยเหลือครอบครัวได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่งทุกคนในสังคมสามารถมีส่วนร่วมสร้างโอกาสให้คนพิการเหล่านี้ยืนอยู่ในสังคมด้วยตนเองได้อย่างยั่งยืน ด้วยการให้พัฒนาและสร้างอาชีพแก่พวกเขา ดั่งพระราชดำรัสในหลวง ร.9 ที่พระราชทานไว้เมื่อ 4 ธันวาคม 2541 ความว่า “เราไม่ควรให้ปลาแก่เขา แต่ควรจะให้เบ็ดตกปลา และสอนให้รู้จักวิธีตกปลาจะดีกว่า” แสดงถึงการที่เราจะให้อะไร หรือช่วยเหลือใครสักคน

11122019_191211_0066-1_resize

          มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ด้านคนพิการระดับสากล ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 ดำเนินการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการสู่การมีงานทำที่มีคุณค่ามากว่า 40 ปี เพื่อให้คนพิการได้พึ่งพาตนเอง มีคุณภาพชีวิตที่ดี รวมทั้งมีโอกาสได้ช่วยเหลือครอบครัว ผลงานในด้านนี้ได้รับการรับรองมาตรฐานองค์กรระดับดีมาก ที่ผ่านมาเราได้ให้ความช่วยเหลือคนพิการเป็นจำนวนมากทั้งด้านการจัดการศึกษา การฝึกอาชีพ บริการจัดหางาน รณรงค์ด้านการเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการของคนพิการ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

          จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 และสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการดำเนินงานของสถาบันการศึกษาของมูลนิธิฯทั้ง 4 แห่ง คือ โรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยา วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ หนองคาย  วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ พัทยา และโรงเรียนเด็กพิเศษคุณพ่อเรย์  ซึ่งให้ความช่วยเหลือเยาวชนคนพิการ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ พร้อมเปิดสายด่วนคนพิการ 1479 เพื่อให้บริการแก่คนพิการในทุกมิติหรือทุกเรื่อง เผยที่ผ่านมายอดบริจาคลดลงอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อการทำงานของเราต้องหยุดชะงัก ประกาศขอความช่วยเหลือด่วน! หากจำเป็นอาจส่งกลับภูมิลำเนาเป็นภาระต่อสังคมต่อไป สามารถช่วยเหลือโดยบริจาคเงินผ่าน ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง ชื่อบัญชี มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เลขที่บัญชี : 342-3-04066-0  นำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้

ดร.สุภรธรรม มงคลสวัสดิ์ 3_resize

          ดร.สุภรธรรม มงคลสวัสดิ์ เลขาธิการ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เปิดเผยว่าถึงแม้ปัจจุบันจะมีวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดของของโควิด-19 แล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการดำเนินงานของสถาบันการศึกษาของมูลนิธิ ฯทั้ง 4 แห่ง ซึ่งให้ความช่วยเหลือเยาวชนคนพิการ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

          ปัจจุบันมูลนิธิ ฯ มีสถานศึกษาทั้งหมด มีนักเรียนและนักศึกษาซึ่งเป็นคนพิการในความดูแลที่อาศัยอยู่ประจำประมาณ 524 คน  ยังไม่รวมบุคลากรและครู ซึ่งอยู่ในความดูแลอีกกว่า 300 คน ซึ่งทั้งหมดมูลนิธิฯ ได้จัดการศึกษาสำหรับคนพิการสู่การมีงานทำที่มีคุณค่าอย่างยั่งยืน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อให้บริการช่วยเหลือคนพิการในทุกมิติหรือทุกเรื่องบริการโดยคนพิการเพื่อคนพิการอย่างแท้จริง การส่งเสริมอาชีพคนพิการสู่การมีงานทำที่มีคุณค่าอย่างยั่งยืน เป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ประโยชน์อย่างสูงสุดกับคนพิการ โดยเปิดโอกาสให้คนพิการที่อยู่ในชนบทและมีความยากลำบากให้เข้าถึงระบบการศึกษา ได้มีทักษะทางด้านวิชาชีพ และทักษะสังคม นำไปสู่การได้งานทำที่มั่นคงหรือประกอบอาชีพที่ยั่งยืน มีรายได้เลี้ยงตนเอง ครอบครัว และอยู่ในสังคมได้อย่างเท่าเทียม อีกทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมและประเทศ

ภาพคนพิการ_191211_0014_resize_resize

          นอกจากนี้ สถาบันศึกษาในการดูแลของมูลนิธิ ฯ เป็นการให้บริการแบบประจำที่มูลนิธิ ฯจะต้องดูแลทั้งในเรื่องที่พัก อาหาร การจัดการศึกษาและกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากคนพิการส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ดังนั้นมูลนิธิ ฯ จะต้องหางบประมาณเพื่อนำมาใช้ในการบริหารจัดการ โดยการรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาทั้งในและต่างประเทศ รวมไปถึงการขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน

          นับตั้งแต่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 และสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีผู้บริจาคลดลงอย่างมาก การจัดการเรียนการสอนให้กับคนพิการก็ได้หยุดชะงักลง ด้วยเพราะมูลนิธิ ฯ ขาดแคลนงบประมาณด้านการบริหารจัดการ และทรัพยากรด้านการสื่อสาร เครือข่ายอินเตอร์ความเร็วสูง เทคโนยีสารสนเทศและอุปกรณ์ เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯ ที่ตั้งไว้

20200519_200519_0222

          “พร้อมกันนี้ สื่อการเรียนและการสอนไม่ทันสมัย ไม่สามารถดำเนินการจัดการศึกษาให้กับคนพิการทั้งในสถาบันศึกษาและที่กระจายอยู่ตามบ้านทั่วประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาได้ใช้การจัดการอบรมอย่างต่อเนื่องตลอดมาได้ส่งผลให้มูลนิธิฯ ไม่สามารถรับดูแลนักเรียนนักศึกษาพิการเหล่านี้หรืออาจจำเป็นต้องส่งกลับภูมิลำเนาเป็นภาระต่อสังคมต่อไป ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือคนพิการที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิ ฯ จึงขอความเมตตาผู้มีจิตศรัทธา ช่วยบริจาคเงินช่วยเหลือเด็กเหล่านี้ได้ โดยโอนเงินผ่าน ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง ชื่อบัญชี มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เลขที่บัญชี : 342-3-04066-0 ทั้งนี้นำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ โทรศัพท์ 02-572 4042 ต่อ 8100, 8102 มือถือ 099-394-4795, 094-665-2223” เลขาธิการมูลนิธิฯ กล่าวในท้ายสุด

ปิดความเห็น บน มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อพัฒนาคนพิการ… เผยยอดบริจาคลดลงมากส่งผลกระทบต่อการทำงาน ชวนบริจาคด่วน! เพื่อส่งเสริมให้น้องๆ มีอาชีพและช่วยเหลือตัวเองได้

“ชลิต อินดัสทรี สานต่อก่ออาชีพช่าง ปี 2” เพื่อโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้

“ชลิต อินดัสทรี สานต่อก่ออาชีพช่าง ปี 2” เพื่อโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้

Posted on 24 มีนาคม 2021 by writer

DSC_9811-1_resize_resize

          โรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สังกัดมูลนิธิพระดาบส) ที่เกิดจากพระราชหฤทัยห่วงใยของพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จัดตั้งขึ้นด้วยพระราชหฤทัยห่วงใยเยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำริว่าเยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีปัญหาสำคัญคือขาดโอกาสการศึกษาและขาดแคลนทุนทรัพย์ จึงได้พระราชทานแนวทางการศึกษา โดยจะเน้นการเรียนการสอนภาคปฏิบัติให้เกิดทักษะและนำไปประกอบอาชีพได้จริง ตามรูปแบบและวิธีการเดียวกับโรงเรียนพระดาบสแห่งแรกที่กรุงเทพฯโดยมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบททางสังคม ศาสนา และวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อให้เยาวชนนอกระบบ  ได้มีโอกาสเล่าเรียนด้านอาชีพที่เหมาะสมมีคุณธรรมและจิตสำนึกที่ดีในการอยู่ร่วมกันท่ามกลางความแตกต่างหลากหลาย รวมทั้งมีอาชีพอันเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างเยาวชนเหล่านี้ให้เป็นพลเมืองดี เป็นที่พึ่งของตนเองครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติ

DSC_9798-1_resize_resize

          เพื่อร่วมส่งเสริมการศึกษาและเสริมสร้างวิชาชีพให้แก่เยาวชนไทย บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยาง ภายใต้  แบรนด์ “POP” ได้สานต่อโครงการ  “ชลิต อินดัสทรี สานต่อก่ออาชีพช่าง ปี 2”  โดยเมื่อเร็วๆ นี้  นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ ร่วมด้วย นางมนัสนันท์-นายอธิวัฒน์ เปรมพุฒิพันธ์  กรรมการ  บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด มอบเงิน พร้อมอะไหล่รถยนต์และอะไหล่ยาง เพื่อใช้ในการดำเนินงานของโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ มูลนิธิพระดาบส โดยมี พลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข  องคมนตรี กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิพระดาบส เป็นผู้รับมอบ ณ สำนักงานมูลนิธิพระดาบส

DSC_9841_resize_resize

          นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทชลิต อินดัสทรี จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาและการสร้างอาชีพมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2563 บริษัทฯได้ริเริ่มโครงการ “ชลิต อินดัสทรี สานต่อก่ออาชีพช่าง” มอบเงินบริจาคพร้อมอุปกรณ์อะไหล่รถยนต์และอะไหล่ยาง เพื่อสนับสนุนกิจกรรมการเรียนการสอนและการดำเนินงานของโรงเรียนพระดาบส กรุงเทพฯ และในปี พ.ศ. 2564 นี้ บริษัทฯยังมีความมุ่งมั่นสานต่อเจตนารมณ์ในการดำเนินโครงการ “ชลิต อินดัสทรี สานต่อ ก่ออาชีพช่าง”

ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสทางศึกษาให้กับน้องๆจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีวิชาชีพและสามารถสร้างรายได้ดูแลตนเองและครอบครัวได้

126098472_3496547243773154_4537288925003536828_o_resize

          นายสมโชค ใหม่ชุม  ผู้อำนวยการ โรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า โรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้จัดการศึกษาตามรูปแบบโรงเรียนพระดาบสที่มุ่งเน้นการสร้างโอกาสให้แก่เยาวชนที่ขาดโอกาสทางการศึกษาและขาดแคลนทุนทรัพย์ที่มีอายุระหว่าง 18 – 25 ปี ไม่มีอาชีพและความรู้พื้นฐานเข้าฝึกอบรม หลักสูตร ช่างอุตสาหกรรม (หลักสูตร 1 ปี) ได้แก่ ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ ช่างซ่อมรักษารถยนต์และเครื่องจักรกลการเกษตร ช่างไฟฟ้า และช่างเชื่อม พร้อมทั้งให้มีการอบรมคุณธรรมจริยธรรมควบคู่ไปในระหว่างเรียน ผู้เรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น เป็นโรงเรียนประจำ เน้นสอนภาคปฏิบัติได้ลงมือทำจริง โดยในปี พ.ศ. 2564 ได้เปิดรับสมัครศิษย์พระดาบสเป็นรุ่นที่ 12 เข้าศึกษาต่อ จำนวน  80 คน จาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดยะลา, ปัตตานี, นราธิวาส, สตูล และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา (อำเภอเทพา, สะบ้าย้อย, จะนะ และอำเภอนาทวี) โดยจะเริ่มเปิดการเรียนการสอนในเดือนพฤษภาคม 2564 นี้

126858174_3496548403773038_635392242197430712_o_resize

           สำหรับผู้สนใจ อยากมีส่วนร่วมสนับสนุนด้านการศึกษาให้กับน้องๆ สามารถติดต่อมูลนิธิพระดาบสโทรศัพท์ 02-282-7000 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.phradabos.or.th

ปิดความเห็น บน “ชลิต อินดัสทรี สานต่อก่ออาชีพช่าง ปี 2” เพื่อโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้

ENZ welcomes further international student cohort

ENZ welcomes further international student cohort

Posted on 23 มีนาคม 2021 by writer

Education New Zealand Manapou ki te Ao (ENZ) welcomes the Minister’s announcement allowing border exceptions for up to 1,000 bachelors degree-level, or higher, international students to return to complete their study, saying it signals New Zealand’s commitment to international education.

This border exception follows and builds on the earlier announcement of an exception for 250 PhD and Master’s students, who are now confirming their visas before returning to New Zealand.

ENZ photo-2_2_resize

ENZ Chief Executive Grant McPherson says international education has wide-ranging benefits and the careful managed return of small cohorts of students like these is part of the government’s Recovery Plan for International Education.

“New Zealand has been enriched by the diversity of perspectives that international students bring to our classrooms, lecture theatres and communities.

“New Zealand’s reputation for delivering a future-focused education is even more relevant for students looking to respond to the impacts of global trends and disruptors – such as COVID-19, which are reshaping our world.”

Eligible students will be enrolled across a range of tertiary study providers including universities, polytechnics/ institutes of technology, wānanga, and private training establishments and will be returning to New Zealand in phases to manage demand on MIQ facilities.

New Zealand study providers will identify and nominate eligible students who meet the criteria; students will not need to apply for places.

To be eligible students must hold or have held a valid visa to study in 2020 and have studied in New Zealand in 2019 or 2020 towards their current qualification, and be returning to complete their study with their current provider.

ENZ photo-1_2_resize

“This announcement not only signals the Government’s commitment to the international education sector, but to international students affected by the pandemic, too.

“We are very pleased to see the Government progress the safe return of international students to New Zealand.”

“This is a good next step, and we look forward to welcoming more students as soon as the time is right.”

All people entering New Zealand will follow all COVID-19 health and safety requirements, including a 14-day stay in managed isolation and quarantine facilities.

**************

Further information

– Education New Zealand is the Crown Agency responsible for international education to benefit New Zealand socially, culturally and economically.

– New Zealand has a strong international reputation for providing a high-quality education and study experience for students e.g. all of New Zealand’s universities are ranked in the top 3% (500 universities) in the world.

– Research shows that New Zealanders recognise that international education is good for New Zealand and its communities: https://enz.govt.nz/news-and-research/ed-news/by-the-numbers-enrolment-data-and-perceptions-survey/

ปิดความเห็น บน ENZ welcomes further international student cohort

SIBA ชวนรับชมออนไลน์ย้อนหลัง แนะแนวการศึกษาสายอาชีพในยุคดิจิทัลหลังโควิด-19

SIBA ชวนรับชมออนไลน์ย้อนหลัง แนะแนวการศึกษาสายอาชีพในยุคดิจิทัลหลังโควิด-19

Posted on 19 มีนาคม 2021 by writer

S__60571728_resize

          ข่าวดี… สำหรับผู้ที่พลาดโอกาสเข้าร่วมสัมมนาครูแนะแนวออนไลน์ อยากรู้ว่าอาชีพของคนรุ่นใหม่ สายอาชีพอะไรจะปังหลังโควิด-19 งานนี้ SIBA (วิทยาลัยอาชีวศึกษาสันติราษฎร์ในพระอุปถัมภ์ฯ) ได้จัดงานสัมมนาครูแนะแนวออนไลน์  โครงการ “การแนะแนวเส้นทางการศึกษาสายอาชีพในยุคดิจิทัลหลังโควิด 19” โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิระดับแถวหน้าของเมืองไทยร่วมเสวนาในหัวข้อ “อาชีพเด็กไทย..กำลังคนสำคัญสร้างชาติยุคดิจิทัลหลังโควิด” อาทิ นายณรงค์ แผ้วพลสง ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา , ดร.เบญจมาภรณ์ คุณะรังษี ผู้อำนวยการ SIBA, นายโอม ศิวะดิตถ์ บจ.ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย),  Mr. Lawrence Tan อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่นแมเนจเม้นท์ จำกัด,  นายวัชระ นิลดำรงค์ บริษัท C ASEAN จำกัด พร้อมฟังประสบการณ์จากศิษย์เก่า SIBA นายณรงค์เดช จานทอง Executive Thai Chef, NOITHAICUISINE Bend OR. ประเทศสหรัฐอเมริกา และนายณัฎฐเอก วัฒนุญาณ  Software Engineer บริษัท อโกด้า เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นต้น

          จึงขอเชิญชวนผู้ปกครองและน้องๆ สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมและรับชมวิดีโอย้อนหลัง  เพื่อวางแผนในการเรียนต่อในอนาคตกับเทรนอาชีพมาแรงบนเส้นทางการศึกษาสายอาชีพเรียนแล้วไม่ตกงาน
ตอบโจทย์ ทุกอาชีพในอนาคตอย่างหมดเปลือก…

สามารถดูย้อนหลังอาชีพสุดปังของคนรุ่นใหม่หลังโควิด-19 ได้ฟรีที่ YouTube : https://youtu.be/vwcSz6QkZek สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม www.siba.ac.th หรือโทร.02 9393000

ปิดความเห็น บน SIBA ชวนรับชมออนไลน์ย้อนหลัง แนะแนวการศึกษาสายอาชีพในยุคดิจิทัลหลังโควิด-19

โอกาสสุดท้าย ! มทร.ธัญบุรีเปิดรับปริญญาตรีไฮบริด ม.ดังนิวซีแลนด์ จบม.5 เรียนได้เลยไม่ต้องรอนิวซีแลนด์เปิดประเทศ

โอกาสสุดท้าย ! มทร.ธัญบุรีเปิดรับปริญญาตรีไฮบริด ม.ดังนิวซีแลนด์ จบม.5 เรียนได้เลยไม่ต้องรอนิวซีแลนด์เปิดประเทศ

Posted on 18 มีนาคม 2021 by writer

          ตอบโจทย์น้องๆและคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการส่งลูกเรียนต่อนิวซีแลนด์ได้เป็นอย่างดี สำหรับหลักสูตรปริญญาตรีไฮบริดนิวซีแลนด์ ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (RMUTT) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยโอทาโก และหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย ร่วมกันพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกสำหรับเด็กไทย  ช่วยเพิ่มโอกาสเรียนและทำงานที่นิวซีแลนด์ให้น้องๆ ผู้ที่จบม.5-ม.6 สามารถเริ่มเรียนปริญญาตรีมหาวิทยาลัยนิวซีแลนด์ได้เลยวันนี้ โดยไม่ต้องเสียเวลารอนิวซีแลนด์เปิดประเทศ เรียนปรับพื้นฐานด้านธุรกิจ (Business Foundation Studies Programme) เรียน 8 เดือนที่ไทย เป็นการเรียนในห้องเรียนจริงกับ RMUTT (30%) และเรียนออนไลน์ กับ ม.โอทาโก 70%  ก่อนไปต่อที่มหาวิทยาลัยนิวซีแลนด์ในสาขาปริญญาตรีธุรกิจ การท่องเที่ยว และเกี่ยวกับศิลปะ หลังเรียนจบสามารถสมัครวีซ่าทำงานเต็มเวลาได้สูงสุด 3 ปีเต็ม ช่วยสร้างประวัติการเรียนและทำงานให้แตกต่าง

DSC_1216-1_resize_resize

          โดยเมื่อเร็วๆ นี้ คณะบริหารธุรกิจ RMUTT ร่วมกับ ม.โอทาโก หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ และตัวแทนที่ปรึกษาการศึกษาต่อนิวซีแลนด์ ได้ร่วมกันจัดงาน Open House แนะนำหลักสูตรปริญญาตรีไฮบริดนิวซีแลนด์ พร้อมทุนการศึกษา $10,000 จากมหาวิทยาลัยโอทาโก พร้อมให้คำปรึกษาแก่พ่อแม่ผู้ปกครอง และน้องๆ  ณ ศูนย์การเรียนรู้ไทย – นิวซีแลนด์ (TNZC)

          ผศ.ดร.นาถรพี  ตันโช คณบดีคณะบริหารธุรกิจ RMUTT เปิดเผยว่า หลักสูตรนี้ถือเป็นหลักสูตรไฮบริดที่ดีที่ทางม.โอทาโกให้โอกาสกับเด็กไทย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของม.โอทาโกนิวซีแลนด์กับความร่วมมือของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย เป็นการเสริมความแข็งแกร่งทางวิชาการ ทำงานร่วมกัน และต่อยอดเพื่อสร้างโอกาสให้กับลูกหลานไทยให้ได้มีโอกาสไปเรียนต่อในต่างประเทศ เป็นสะพานเชื่อมที่ทำให้เด็กไทยสามารถออกสู่ตลาดการศึกษาต่างประเทศภายใต้คุณภาพ งบประมาณที่ไม่ได้สูงเกินไป และที่สำคัญคือมีอาจารย์ที่ปรึกษาที่สามารถดูแลได้อย่างดี

DSC_1121_resize_resize

          “ก็อยากเชิญชวนน้องๆและผู้ปกครองที่สนใจที่อยากจะให้ลูกไปเรียนต่อต่างประเทศ นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีระบบมาตรฐานการศึกษาที่ดี โดยใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารเป็นภาษาหลัก และคนนิวซีแลนด์ที่เป็นมิตร ก็จะทำให้เด็กที่ไปเรียนที่นิวซีแลนด์มีความสุข มีความปลอดภัย ซึ่งนิวซีแลนด์มีชื่อเสียงในฐานะประเทศหนึ่งที่มีความปลอดภัยสูงสุด ก็อยากจะเชิญน้องๆได้เข้ามาเรียนในโครงการนี้ อาจารย์ไปมาแล้วประเทศแล้ว แต่ก็ยังยืนยันว่านิวซีแลนด์เป็นประเทศที่น่าเรียนมากที่สุด” ผศ.ดร.นาถรพี กล่าว

          คุณแม่พงษ์ธนา นิโรภาส คุณแม่น้องแฟรงค์-อิสระพงษ์ นิโรภาส เปิดเผยว่า น้องแฟรงค์จบไฮสคูลที่นิวซีแลนด์และตั้งใจจะส่งน้องแฟรงค์ไปเรียนต่อปริญญาตรีที่นิวซีแลนด์แต่ติดปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้เราไม่สามารถวางแผนต่อได้ เมื่อมีหลักสูตรปริญญาตรีไฮบริดนิวซีแลนด์นี้เกิดขึ้นมา ทำให้เราสามารถวางแผนการเรียนได้ เหมือนได้สร้างโอกาสให้เด็ก และเราก็มั่นใจที่นิวซีแลนด์เพราะลูกเราเคยไปเรียนมาแล้ว เราเคารพมาตรการของเขามีความน่าเชื่อถือสูง ดูปลอดภัยมาก และด้วยอัธยาศัยของคนที่โน่นดูเป็นคนใจดีไม่มีคนมาดูถูกหรือบูลลี่ชอบช่วยเหลือกันมากกว่า เลยคิดว่าที่นี่ดูปลอดภัยสำหรับลูกเรา

คุณแม่-น้องแฟรงค์-พี่สาว_resize

          น้องแฟรงค์ เล่าว่า เรียนที่นิวซีแลนด์มาแล้ว 3 ปี ชอบอัธยาศัยของคนเป็นมิตร และอากาศดี ทำให้ไม่รู้สึกกดดันอะไรมากดูไม่เป็นการแข่งขัน เลยทำให้ผมอยากเรียนและสนุกกับการเรียน ได้ค้นพบตัวตนของตัวเอง เหตุผลที่ตัวเองชอบ ทำให้เราเลือกง่ายขึ้นว่าเราจะไปเรียนที่ไหนและเหมาะกับอะไร

          สำหรับน้องๆที่สนใจหลักสูตรนี้ โอกาสสุดท้ายแล้วต้องรีบๆหน่อย เพราะรับจำนวนกัดและโควตาใกล้เต็ม สามารถปรึกษาและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://line.me/ti/p/%40nzenglish

ปิดความเห็น บน โอกาสสุดท้าย ! มทร.ธัญบุรีเปิดรับปริญญาตรีไฮบริด ม.ดังนิวซีแลนด์ จบม.5 เรียนได้เลยไม่ต้องรอนิวซีแลนด์เปิดประเทศ

SIBA เตรียมฉลองครบรอบ 60 ปี มอบ 60 ทุนการศึกษา ทั้ง ปวช. และ ปวส. เน้นตอนเรียนได้เงิน จบได้งานทำแน่!

SIBA เตรียมฉลองครบรอบ 60 ปี มอบ 60 ทุนการศึกษา ทั้ง ปวช. และ ปวส. เน้นตอนเรียนได้เงิน จบได้งานทำแน่!

Posted on 17 มีนาคม 2021 by writer

S__26976385_0_resize

          SIBA เตรียมครบ  60 ปี จัดใหญ่มอบ 60 ทุนการศึกษาระดับปวช. และ 60 ทุนการศึกษาระดับ ปวส. รวมมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ในปีการศึกษา 2564 นี้ ทุนการศึกษาระดับ ปวช. สำหรับผู้เรียนจบ มัธยมศึกษาปีที่3, กศน. หรือเทียบเท่า เป็นทุนการศึกษา 50-100% ตลอดหลักสูตร3 ปี สำหรับทุนการศึกษาระดับปวส.  SIBA ร่วมกับ สถานประกอบการธุรกิจชั้นนำของประเทศ มอบทุนการศึกษา และมีงานให้ทำ มีรายได้ระหว่างเรียน และรับเข้าทำงานทันทีเมื่อจบการศึกษา เป็นทุนการศึกษา 50-100% ตลอดหลักสูตร 2 ปี สำหรับนักเรียน ผู้เรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 6, ปวช. หรือเทียบเท่า ตอกย้ำ! เรียนได้เงิน จบได้งาน มั่นใจเรียนจบมีความรู้ติดตัว ไม่ต้องกลัวตกงาน จบอาชีวศึกษามีงานทำ 100% ชี้ตลาดแรงงานมีความต้องการจำนวนมาก เช่น นักการตลาดออนไลน์นักพัฒนาแอพพลิเคชั่น, ผู้ดูแลโซเชียลมีเดีย, นักกูรูออนไลน์ หรือ Youtuber, ผู้ดูแลเครือข่ายระบบคอมพิวเตอร์ หรือ Programmer, เจ้าของธุรกิจ Start Up, นักบัญชีที่เชี่ยวชาญเรื่องภาษีอากร, เชฟ, ฟู้ดสไตลิสต์ เป็นต้น

          อาจารย์พิริยาภรณ์ ธรรมมารักษ์ ประธานกรรมการบริหาร SIBA (วิทยาลัยอาชีวศึกษาสันติราษฎร์ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี) เปิดเผยว่า การเรียนสายอาชีพถือเป็นเทรนด์ใหม่มาแรงของเด็กยุคใหม่  เนื่องจากการศึกษาสายอาชีพเป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ได้อย่างแท้จริง และที่พิเศษสุดในปีการศึกษา 2564 นี้ SIBA จะฉลองวาระย่าง 60 ปี ด้วย การมอบ 60 ทุนการศึกษา ระดับปวช. และ 60 ทุนการศึกษา ระดับปวส. รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 6 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น

S__26984546-2_resize

          – ทุนการศึกษาระดับปวช. จำนวน 60 ทุน ประกอบด้วย ทุนเรียนดีประพฤติดี และขาดแคลนทุนทรัพย์ ทุนความสามารถพิเศษ ด้านกีฬา กิจกรรม และการขับร้องประสานเสียง สำหรับผู้เรียนจบ มัธยมศึกษาปีที่ 3, กศน. หรือเทียบเท่า เป็นทุนการศึกษา 50 – 100% ตลอดหลักสูตร 3 ปี และ

          – ทุนการศึกษาระดับปวส. จำนวน 60 ทุน เป็นทุนที่ SIBA ร่วมกับ สถานประกอบการธุรกิจชั้นนำ มอบทุนการศึกษาตลอดหลักสูตร มีงานให้ทำ มีรายได้ระหว่างเรียน และรับเข้าทำงานทันทีเมื่อจบการศึกษา เป็นทุนการศึกษา 50-100% ตลอดหลักสูตร 2 ปี สำหรับนักเรียน ผู้เรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 6, ปวช. หรือเทียบเท่า

S__26976387_0_resize

          โดยเปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 9 เม.ย.64 ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: siba60ปี60ทุน / website: https://siba.ac.th / Instagram: siba_college/ Twitter: @sibalive หรือโทร. 02-939-3000 และ 092-290-3572

          “ใครที่สนใจอยากมีอาชีพที่เป็นที่นิยมหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด เช่น นักการตลาดออนไลน์, นักพัฒนาแอพพลิเคชั่น, ผู้ดูแลโซเชียลมีเดีย, นักกูรูออนไลน์ หรือ Youtuber, ผู้ดูแลเครือข่ายระบบคอมพิวเตอร์ หรือ Programmer, เจ้าของธุรกิจ Start Up, นักบัญชีที่เชี่ยวชาญเรื่องภาษีอากร, เชฟ, ฟู้ดสไตลิสต์ เป็นต้น SIBA เป็นสถาบันการศึกษาที่ตอบโจทย์ความต้องการของเด็กรุ่นใหม่ได้อย่างตรงจุด เนื่องจากเราเปิดสอนสายสายอาชีพ มีหลักสูตรวิชาชีพมากมาย มีความยืดหยุ่นและทันสมัย เข้ากับโลกยุคปัจจุบัน ผู้เรียนสามารถเลือกได้ ตามความต้องการ และความถนัดของตนเอง  เน้นการเรียนการสอนที่ได้ลงมือปฏิบัติจริง ที่ตอบโจทย์สำหรับอาชีพในอนาคต เมื่อนักเรียนเรียนจบมีวิชาติดตัวไม่ต้องกลัวตกงานแน่นอน จบอาชีวศึกษาแล้วมีงานทำ 100 % เพราะตลาดแรงงานยังมีความต้องการอีกจำนวนมาก และหากฝึกฝนฝีมือจนเชี่ยวชาญ ก็สามารถเป็นเจ้าของกิจการได้ตั้งแต่อายุยังน้อย คนจำนวนมากที่สร้างตัวจากความรู้สายอาชีวะ จนเป็นนักธุรกิจ 100 ล้านมาแล้วที่สำคัญหากเรียนอาชีวะ สามารถมีงานทำ มีรายได้ระหว่างเรียน” อาจารย์พิริยาภรณ์ กล่าวในท้ายสุด

ปิดความเห็น บน SIBA เตรียมฉลองครบรอบ 60 ปี มอบ 60 ทุนการศึกษา ทั้ง ปวช. และ ปวส. เน้นตอนเรียนได้เงิน จบได้งานทำแน่!

มอบใบประกาศนียบัตรแก่ผู้สำเร็จหลักสูตร CDA#2

มอบใบประกาศนียบัตรแก่ผู้สำเร็จหลักสูตร CDA#2

Posted on 15 มีนาคม 2021 by writer

DSC_0881_resize_0_resize

          พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง เป็นประธานมอบใบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้สำเร็จหลักสูตร ผู้นำการส่งเสริมดิจิทัลด้านธุรกิจเกษตร รุ่น 2 (Chief of Digital AGRO Business – CDA#2) จำนวน 59 คน พร้อมนำเสนอผลงาน ภายใต้แนวคิด “การใช้ Digital Technologies มาช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจและสังคมภาคเกษตร” ในหัวข้อต่างๆเพื่อนำแนวคิดไปต่อยอดในการพัฒนาธุรกิจฯ โดยมี ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ให้การตอนรับ พร้อมผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม, อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย, สมคิด จันทมฤก, นิยม สองแก้ว, ประสพ เรียงเงิน, ดาเรศร์ กิตติโยภาส เป็นต้น  ณ รร. โนโวเทล สุขุมวิท 20 เมื่อเร็วๆนี้

ปิดความเห็น บน มอบใบประกาศนียบัตรแก่ผู้สำเร็จหลักสูตร CDA#2

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ให้เกียรติมอบใบประกาศนียบัตรแก่ผู้สำเร็จหลักสูตร CDA#2

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ให้เกียรติมอบใบประกาศนียบัตรแก่ผู้สำเร็จหลักสูตร CDA#2

Posted on 12 มีนาคม 2021 by writer

DSC_0243_resize_resize

         สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เดินหน้าเพิ่มทักษะผู้นำการส่งเสริมดิจิทัลด้านธุรกิจเกษตร รุ่น 2 (Chief of Digital AGRO Business – CDA#2) โดยเปิดโอกาสให้ผู้นำเกษตรได้นำเสนอโครงการต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร พร้อมได้รับเกียรติจาก พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง สมาชิกวุฒิสภาและประธานคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานพร้อมมอบใบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้สำเร็จหลักสูตร จำนวน 59 คน

DSC_0657_resize_resize

          ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่า ดีป้า มีภารกิจหลักในการส่งเสริมให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลในภาพใหญ่ระดับประเทศซึ่งหลักสูตรพัฒนาบุคลากร หรือ Human Capital ถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 (COVID-19) ที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในระบบเศรษฐกิจและสังคม องค์กรธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ต้องปรับตัวอย่างฉับพลัน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น รวมถึง New Normal ที่จะพลิกโฉมการดำเนินธุรกิจไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะเทคโนโลยีดิจิทัลที่จะถูกนำมาประยุกต์ใช้ในทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนองค์กรและภาคธุรกิจของประเทศ ให้ปรับตัวทันต่อการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

DSC_0651_resize_resize

         สำหรับ หลักสูตรผู้นำการส่งเสริมดิจิทัลด้านธุรกิจเกษตร (CDA) ที่ ดีป้า ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นรุ่นที่ 2 มีผู้บริหารระดับสูงจากภาครัฐและภาคเอกชนด้านธุรกิจเกษตรให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยดีป้า มุ่งเป้าพัฒนาศักยภาพของผู้นำองค์กรภาคธุรกิจเกษตรในทุกมิติ เน้นต่อยอดองค์ความรู้ การบริการจัดการและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ในการบริหารจัดการองค์กร รวมถึงการสร้างนวัตกรรมให้ตอบโจทย์เศรษฐกิจสังคมยุคใหม่ เพื่อสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารภาครัฐและเอกชนที่เป็นเครือข่ายอันเข้มแข็งในการพัฒนาภาคธุรกิจเกษตรของประเทศไทย

DSC_0847_resize_resize

         การอบรมหลักสูตรในวันนี้ ผู้เข้าอบรมได้นำเสนอผลงาน ภายใต้แนวคิด “การใช้ Digital Technologies มาช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจและสังคมภาคเกษตร” ในหัวข้อต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เริ่มที่ผลงาน Digital for Upstream Agro Business (DU) : โครงการที่ใช้ Digital Technologies ช่วยพัฒนาให้ภาคเกษตร (ต้นน้ำ) , Digital for Midstream Agro Business (D-Mid) : โครงการที่ใช้ Digital Technologies ช่วยพัฒนาให้ภาคการผลิตเกษตรหรือเกษตรแปรรูป (กลางน้ำ) , Digital Manpower (DM) : โครงการที่ช่วยพัฒนาให้เกษตรกรมี Digital skills เพื่อนำไปช่วยในการทำงาน ปิดท้ายด้วยผลงาน Digital for Downstream Agro Business (DD) : โครงการที่ใช้ Digital Technologies ช่วยด้านการขาย หรือการตลาดให้ผลผลิตการเกษตร หรือเกษตรแปรรูป (ปลายน้ำ) เป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้า โดยทุกผลงานมุ่งหวังช่วยลดรายจ่าย และเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร

DSC_0755_resize_resize

         นอกจากนี้ ภายในงานผู้เข้าอบรมยังได้รับฟังข้อเสนอแนะ จากผู้ทรงคุณวุฒิหลากหลายสาขา ทั้งภาครัฐและเอกชน เกือบ 30 ท่าน อาทิ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง, รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม, อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย, สมคิด จันทมฤก, นิยม สองแก้ว, ประสพ เรียงเงิน, ดาเรศร์ กิตติโยภาส, เกศรา มัญชุศรี, สฤษดิ์ วิฑูรย์,  ดร.นิลสุวรรณ ลีลารัศมี, พิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา, ผศ.ดร.จิระเสกข์ ตรีเมธสุนทร, กำพล โชคสุนทสุทธิ์, ดร.ดี จันทร์ศุภฤกษ์, ธนาวุฑ เอื้อละพันธ์, ละเอียด โควาวิสารัช, โอม ศิวะดิตถ์, เลิศรัตน์ รตะนานุกูล, ณัฐพล วิมลเฉลา เพื่อนำแนวคิดไปต่อยอดในการพัฒนาธุรกิจให้พร้อมเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลต่อไป…

ปิดความเห็น บน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ให้เกียรติมอบใบประกาศนียบัตรแก่ผู้สำเร็จหลักสูตร CDA#2

“ชลิต อินดัสทรี” สานต่อก่ออาชีพช่าง ปี 2 เพื่อโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้

“ชลิต อินดัสทรี” สานต่อก่ออาชีพช่าง ปี 2 เพื่อโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้

Posted on 12 มีนาคม 2021 by writer

DSC_9811-1_resize

         พลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข  องคมนตรี กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิพระดาบส รับมอบเงินบริจาค พร้อมอะไหล่รถยนต์และอะไหล่ยาง จาก นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอะไหล่ยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ “POP” เพื่อสานต่อโครงการ  “ชลิต อินดัสทรี สานต่อก่ออาชีพช่าง” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 สนับสนุนการดำเนินงานของโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ มูลนิธิพระดาบส ณ สำนักงานมูลนิธิพระดาบส เมื่อเร็วๆนี้

ปิดความเห็น บน “ชลิต อินดัสทรี” สานต่อก่ออาชีพช่าง ปี 2 เพื่อโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้

โควิด -19พ่นพิษ รร.สอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยาฯ วอน! ช่วยเหลือน้องๆ นักเรียนตาบอดกว่า 100 ชีวิต

โควิด -19พ่นพิษ รร.สอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยาฯ วอน! ช่วยเหลือน้องๆ นักเรียนตาบอดกว่า 100 ชีวิต

Posted on 10 มีนาคม 2021 by writer

001_resize

             โรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยาฯ วอนช่วยเหลือน้องๆนักเรียนตาบอดกว่า 100 ชีวิตได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างหนักจนไม่สามารถเรียนได้เต็มที่ และยากต่อการเข้าถึงการเรียนแบบออนไลน์ นักเรียนไม่สามารถมาเรียนได้ทั้งหมด สืบเนื่องจากเป็นโรงเรียนประจำและมีข้อจำกัดการเว้นระยะห่าง จึงต้องให้นักเรียนที่สามารถเรียน และต้องมีการสอบวัดผลประเมินผล มาเรียนก่อน คือนักเรียนระดับประถม มัธยม ส่วนระดับอนุบาลเพื่อความปลอดภัยให้อยู่ในความดูแลของผู้ปกครอง สถานการณ์โควิด-19 มีผู้บริจาคลดลงมากส่งผลให้ไม่เพียงพอต่การดำเนินการของโรงเรียน จึงขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินและสิ่งของจำเป็นเพื่อช่วยเหลือให้น้องๆให้ได้รับการศึกษา ฟื้นฟูสมรรถภาพ และฝึกอาชีพ  “พร้อมช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นได้” สามารถบริจาคได้ที่ SCB เลขที่ 669-2-10787-4 สาขาพัทยาสาย 2 ชื่อ บ/ช ทุนบรมราชกุมารีเพื่อคนตาบอด (2536) ใบเสร็จลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า

ผอ. รร.สอนคนตาบอดฯ_resize

             นายชิด สุขหนู ผู้อำนวยการ  โรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยาในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เปิดเผยว่า โรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยาในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์กรการกุศล ซึ่งจัดการศึกษาและฟื้นฟูพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับนักเรียนตาบอดและตาบอดพิการซ้อน ตั้งแต่ ระดับอนุบาลถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น นอกจากนี้ยังได้ขยายโอกาสทางการศึกษาโดยการจัดการศึกษานอกระบบ และมีโครงการเรียนรวมในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ปัจจุบันโรงเรียนมีนักเรียนอยู่ในความดูแลทั้งหมดจำนวน 104 คน โดยนักเรียนทั้งหมดเป็นนักเรียนอยู่ประจำในหอพักของโรงเรียน และโรงเรียนยังได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาศักยภาพของเด็กตาบอดและเด็กตาบอดพิการซ้อนด้วยกระบวนการต่าง ๆ ในการเตรียมความพร้อมทางด้านความมั่นคงทางอารมณ์ สังคม สติปัญญา ทักษะการดำรงชีวิตอิสระสำหรับคนตาบอด เช่น การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล การปฏิบัติกิจวัตรในชีวิตประจำวัน การเคลื่อนไหวและการเดินทาง การอ่าน การเขียนอักษรเบรลล์ นันทนาการ ตลอดจนการส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ในสังคมเพื่อสร้างความภาคภูมิใจและความรู้สึกเป็นสมาชิกของสังคม นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริม การสร้างความเป็นเลิศด้านการกีฬา ดนตรี งานนวดและงานฝีมือ เพื่อเป็นการสร้างความก้าวหน้าในอนาคต โดยนักเรียนผู้เข้ารับบริการไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ

41491177_1843286855761466_8791534893675839488_o_resize

             สืบเนื่องจากเป็นโรงเรียนประจำและมีข้อจำกัดการเว้นระยะห่างเพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19  จึงต้องให้นักเรียนที่สามารถเรียน และต้องมีการสอบวัดผลประเมินผล มาเรียนก่อน คือนักเรียนระดับประถม มัธยม ส่วนระดับอนุบาลเพื่อความปลอดภัยให้อยู่ในความดูแลของผู้ปกครอง

             จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะทำให้มีผู้บริจาคลดลงอย่างมาก การดำเนินชีวิตของคนตาบอดก็ลำบากมากขึ้นการคนปกติทั่วไปรวมทั้งการได้รับการศึกษาด้วย ทั้งนี้โรงเรียนเป็นองค์กรการกุศลที่ไม่ได้แสวงหาผลกำไรจากการดำเนินงาน ดังนั้น งบประมาณหลักจึงมาจากการบริจาค โดยโรงเรียนได้รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐเพียงร้อยละ 20 ส่วนร้อยละ 80 เป็นการจัดกิจกรรมเพื่อขอการสนับสนุนจากภาคส่วนต่างๆ ในสังคม ซึ่งรายจ่ายต่อเดือนอยู่ที่ 8 แสน ถึง 1 ล้านบาท ทั้งนี้ทางโรงเรียนเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับผลกระทบดังกล่าว จึงได้มีกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อหารายได้เป็นทุนการศึกษาให้กับเด็ก ๆ อาทิ  ขายอาหารแห้งของดีภาคตะวันออก  เปิดหน่ายงานฝีมือของนักเรียน จัดคอนเสิร์ตออนไลน์ทุกสัปดาห์ เป็นต้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในการดำเนินการดูแลทั้งในเรื่องที่พัก อาหาร การจัดการศึกษาและกิจกรรมอื่น ๆ อาทิ การฟื้นฟูสมรรถภาพ การฝึกอบรมเพื่อการประกอบอาชีพ เป็นต้น ผู้อำนวยการ โรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยาฯ กล่าวในตอนท้าย

71531591_2431971026893043_8194518934699900928_n_resize

             ทั้งนี้ ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคช่วยเหลือให้น้องๆเหล่านี้ให้ได้รับการศึกษา ฟื้นฟูสมรรถภาพ และฝึกอาชีพ  “พร้อมช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นได้” สามารถบริจาคเงินได้ที่ SCB เลขที่ 669-2-10787-4 สาขาพัทยาสาย 2 ชื่อ บ/ช ทุนบรมราชกุมารีเพื่อคนตาบอด (2536) ใบเสร็จลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า หรืออาหารและสิ่งของจำเป็นต่างๆ ได้ที่ โทรศัพท์ 038-225-479 และ 081-359-0788 หรือ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่  auapattayablind@gmail.com หรือเว็บไซต์  www.prsb.ac.th  

ปิดความเห็น บน โควิด -19พ่นพิษ รร.สอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยาฯ วอน! ช่วยเหลือน้องๆ นักเรียนตาบอดกว่า 100 ชีวิต

มีนาคม 2021
พฤ อา
« ก.พ.   เม.ย. »
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031  

RELATED SITES