Archive | ข่าว

NGG Jewellery นำลูกค้าบินลัดฟ้าสู่เกาะฮ่องกง

NGG Jewellery นำลูกค้าบินลัดฟ้าสู่เกาะฮ่องกง

Posted on 26 กรกฎาคม 2024 by writer

ภาพสังคม HK - ok_resize

          นางสาวปัญจรัตน์ ทรัพย์หิรัญกุล ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ บริษัท เอ็นจีจี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด หรือ NGG JEWELLERY จัดทริปพิเศษเฉพาะลูกค้า VIP สายบุญ พาบินลัดฟ้าสู่เกาะฮ่องกง เพื่อเสริมดวงทุกด้านให้ปังตลอดปี ร่วมพิธีเปลี่ยนดวงเปิดทรัพย์รับโชคกับวัดดังเก่าแก่มากมาย ทั้งไหว้วัดแชกงหมิว, วัดไซกุง  (แชกงหมิวเก่า), วัดเจ้าแม่กวนอิม ฮองฮำ,  วัดหวังต้าเซียน, พระใหญ่นองปิง เป็นต้น  เพื่อตอบแทนลูกค้าที่ซื้อจี้กังหันหยกจักรพรรดิ์นำโชค โดยมี คุณแม่พิณน้อย กิติยากร ณ อยุธยา และน้ำอบ  ม.ล.อรณิช กิติยากร พร้อมด้วย ชินแสชื่อดังของเมืองไทย หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา เป็นวิทยากรนำคณะด้วย ณ วัดหวังต้าเซียน ประเทศฮ่องกง เมื่อเร็วๆนี้

Comments (0)

ชลิต อินดัสทรีฯ ร่วมกับ วิศวกรรมอุตสาหการ มจธ. มอบทุนวิจัยวิศวกรรมดีเด่น “ชลิต อินดัสทรี อวอร์ด” ปี 5

ชลิต อินดัสทรีฯ ร่วมกับ วิศวกรรมอุตสาหการ มจธ. มอบทุนวิจัยวิศวกรรมดีเด่น “ชลิต อินดัสทรี อวอร์ด” ปี 5

Posted on 16 กรกฎาคม 2024 by writer

1- Chalit Industry Award 2024_resize

          จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 แล้วสำหรับโครงการ  “ชลิต อินดัสทรี อวอร์ด 2024 (Chalit Industry Award 2024)”) มอบทุนวิจัยโครงงานปริญญานิพนธ์ดีเด่น ประจำปี 2567 โดยร่วมมือของภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี พระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) และบริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยาง ภายใต้แบรนด์ “POP” เพื่อร่วมส่งเสริมและต่อยอดผลงานด้านงานวิจัยให้เกิดวิทยาการใหม่ๆทางด้านทฤษฎีและปฏิบัติ ร่วมพัฒนาบุคลากรด้านการศึกษาที่มีทักษะและความสามารถด้านงานวิจัย อีกทั้งยังเป็นการช่วยเสริมสร้างความภาคภูมิใจในการค้นคว้าและพัฒนางานวิจัยใหม่ๆที่มีศักยภาพในการนำไปพัฒนาต่อยอดสู่ภาคอุตสาหกรรมจริง ให้กับน้องๆคณะวิศวกรรมศาสตร์ อีกด้วย  

          โดยเมื่อเร็วๆนี้ได้จัดให้มีการนำเสนอผลงานและมอบทุนวิจัยโครงงานปริญญานิพนธ์ดีเด่น  พร้อมใบประกาศเกียรติคุณฯ “ชลิต อินดัสทรี อวอร์ด 2024” ประจำปี 2567 ให้กับน้องๆนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) โดยมี รศ.ดร.สุรวุฒิ ช่วงโชติ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี พระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เป็นประธาน ร่วมด้วย นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ  และ นางมนัสนันท์ เปรมพุฒิพันธ์ กรรมการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด เป็นผู้มอบรางวัล  ร่วมด้วย ดร.สมพร เพียรสุขมณี หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์,  ดร.ฐิตินันท์ มีทอง และ ผศ.ดร.พร้อมพงษ์ ปานดี อาจารย์ประจำภาควิชา ตลอดจนคณาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ  ร่วมแสดงความยินดี  ณ ห้องประชุม ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มจธ.

2- พิธีเปิด_resize

          รศ.ดร.สุรวุฒิ ช่วงโชติ กล่าวว่า โครงการฯนี้เป็นความร่วมมือที่ต่อเนื่องยาวนานเป็นปีที่ 5 แล้ว    นอกจากจะเป็นขวัญและกําลังใจให้กับนักศึกษาแล้ว ยังช่วยทำให้ความร่วมมือของอาจารย์ในภาควิชาและภาคอุตสาหกรรมแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ขอแสดงความยินดีและชื่นชมนักศึกษาวิศวกรรมอุตสาหการ และวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ ที่ได้รับทุนวิจัยโครงงานปริญญานิพนธ์ดีเด่น “ชลิต อินดัสทรี อวอร์ด 2024” ในปีนี้ ซึ่งแต่ละหัวข้อโครงงาน นักศึกษาของเรานําเสนอผลการวิจัยได้ดี มีการปรับตัวและการทำโครงงานวิ่งไปตามกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงไป

          นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด  กล่าวว่า ชลิต อินดัสทรีฯ ดำเนินธุรกิจด้านการผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยางมานานกว่า 30 ปี ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมในรูปแบบต่างๆโดยเฉพาะด้านการศึกษา บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีส่วนร่วมสร้างขวัญและกำลังใจให้กับน้องๆ ด้วยการมอบรางวัล “ชลิต อินดัสทรี อวอร์ด 2024” โครงงานปริญญานิพนธ์ดีเด่นด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ ประจำปี 2567 ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มจธ.

          ทุนวิจัย  “ชลิต อินดัสทรี อวอร์ด 2024” ประจำปี 2567 เป็นการมอบทุนวิจัยโครงงานปริญญานิพนธ์ที่มีความโดดเด่น ให้กับนักศึกษาที่สําเร็จการศึกษาจากภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มจธ. ที่มีผลงานโครงงานปริญญานิพนธ์ดีเด่นด้านอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ โดยในปีนี้คณะกรรมการการคัดเลือกผลงานโครงงานปริญญานิพนธ์ ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ ได้ร่วมมือกับ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จํากัด คัดเลือกผลงานวิจัยที่มีความโดดเด่นมีศักยภาพในการนําไปพัฒนาต่อยอดสู่ภาคอุตสาหกรรมจริง ทั้งสาขาวิศวกรรมอุตสาหการ และวิศวกรรมแมคคาทรอนิกส์ จํานวน 4 โครงงาน ได้แก่

5-การนำเสนอผลงานวิจัยในแต่ละทีม_resize

  • การปรับปรุงกระบวนการผลิตก้ามเบรกรถจักรยานยนต์ โดย นายธีรภัทร์ วงศ์ตรีรัตนชัย, นายชัยชนม์ ศิริรัตน์ และนายประจิตร หมื่นสุข
  • การปรับปรุงผลผลิต ในสายการประกอบสำหรับวิทยุติดรถยนต์ โดย นางสาวธนัชพร ประยูรภูริพันธุ์,นางสาวนภัทร์ชนม์ ตันติตระการวัฒนา, นางสาวภัทรวดี นาคแดง และนางสาวพิฐชญาณ์ วงษ์ไพจิตต์
  • การออกแบบและพัฒนาระบบตรวจจับอุณหภูมิล้อยางและเบรกของรถบรรทุกขนส่ง ด้วยวิธีแบบไม่สัมผัสโดย นางสาวณัฐณิชา ยอดรักษ์ และ นางสาวณัฐรีญาพร พิจารณ์วณิช
  • การตรวจจับรอยแตกร้าวและทำนายตัวแปรที่เหมาะสมในการเชื่อมวัสดุอะลูมิเนียมผสมด้วยปัญญาประดิษฐ์ โดยใช้กล้องถ่ายภาพความร้อน โดย นางสาวรัชดาพร บุญรังสี และนางสาวเบญจภรณ์ ชาญประเสริฐกุล

          นายธีรภัทร์ วงศ์ตรีรัตนชัย ตัวแทนที่ได้รับทุนวิจัย “ชลิต อินดัสทรี อวอร์ด 2024” จากกลุ่มการปรับปรุงกระบวนการผลิตก้ามเบรกรถจักรยานยนต์ กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้รับทุน ว่า  “ไม่คาดคิดว่าจะได้รับรางวัลนี้มาก่อน พอได้ทราบว่าได้รางวัลก็รู้สึกดีใจและภูมิใจกับโปรเจคที่พวกผมได้ร่วมมือกันทำออกมาอย่างเต็มที่ ต้องขอขอบคุณที่ให้โอกาสและมอบรางวัลให้กับพวกผมครับ”

          โครงการทุนวิจัย “ชลิต อินดัสทรี อวอร์ด”  นับเป็นหนึ่งในโครงการที่มีส่วนช่วยสนับสนุนให้นักศึกษาเล็งเห็นความสําคัญของการทํางานวิจัยในรูปแบบของการทําโครงงานปริญญานิพนธ์  อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งโครงการที่สร้างแรงบันดาลใจแรงผลักดันให้กับนักศึกษาได้พัฒนาผลงานวิจัยของตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตและประเทศชาติต่อไป

Comments (0)

ประชุมวิชาการ “ความก้าวหน้าในการรักษาโรคมะเร็งในเด็ก” เพื่อเทิดพระเกียรติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ

ประชุมวิชาการ “ความก้าวหน้าในการรักษาโรคมะเร็งในเด็ก” เพื่อเทิดพระเกียรติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ

Posted on 12 กรกฎาคม 2024 by writer

          กองทุนโรคมะเร็งในเด็กในพระอุปถัมภ์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ร่วมกับ มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ และโรงพยาบาลเด็กสมิติเวช จัดประชุมวิชาการ“ความก้าวหน้าในการรักษาโรคมะเร็งในเด็ก”  เพื่อเทิดพระเกียรติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ วันที่ 13 กรกฎาคม 2567 นี้

1 Prince Somsavalee_02_resize          โรคมะเร็งในเด็กเป็นโรคที่มีโอกาสรักษาหายขาดได้ค่อนข้างสูง หากได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี ส่งผลให้เด็กที่หายขาดมีชีวิตไปอีกยาวนาน  โดยปัจจุบันผู้ป่วยโรคมะเร็งเด็กมีอัตราการรอดชีวิตสูง  80-90%  จากในอดีตที่มีอัตราการรอดชีวิตเพียง 20-30% เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งในเด็กค่อนข้างสูงมาก ทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสเข้าถึงการรักษาน้อย

           นับเป็นพระกรุณาธิคุณของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ที่ทรงห่วงใยต่อผู้ป่วยโรคมะเร็งในเด็กที่ยากไร้ทั่วประเทศ โดยพระองค์ท่านได้ประทานเงินส่วนพระองค์ จำนวน 1 ล้านบาท เพื่อร่วมสมทบทุนก่อตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งในเด็กที่ยากไร้ทั่วประเทศ พร้อมทรงรับเป็นองค์พระอุปถัมภ์และประทานชื่อกองทุนว่า “กองทุนโรคมะเร็งในเด็ก ในพระอุปถัมภ์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งในเด็กที่ยากไร้ทั่วประเทศ และให้การสนับสนุนงานวิจัยการพัฒนาบุคลากรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและรักษาโรคมะเร็งในเด็ก  นอกจากนี้ในปี พ.ศ. 2560 และ 2561 ได้ทรงประทานเงินส่วนพระองค์ อีกปีละจำนวน 1 ล้านบาท

          ทั้งนี้ กองทุนนี้ได้ริเริ่มก่อตั้งขึ้นโดยมูลนิธิคุณแม่คุณภาพ ร่วมกับคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคมะเร็งในเด็ก ได้ร่วมก่อตั้งกองทุนขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2543 และวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2544 ได้รับประทานชื่อเป็น “กองทุนโรคมะเร็งในเด็ก ในพระอุปถัมภ์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ” และล่าสุดวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2562  ได้ประทานพระอนุญาตแก้ไขชื่อกองทุนฯ เป็น “กองทุนโรคมะเร็งในเด็ก ในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ”

          ศ.นพ.สุรเดช หงส์อิง. เลขาธิการกองทุนโรคมะเร็งในเด็ก ในพระอุปถัมภ์ฯ เปิดเผยว่า กองทุนโรคมะเร็งในเด็กฯ ได้ให้ความช่วยเหลือเด็กที่ป่วยเป็นมะเร็งที่ยากไร้ทั่วประเทศ ผ่านทางแพทย์ที่ทำการรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดกว่า 20 แห่งทั่วประเทศ อาทิ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ รพ.ศูนย์ลำปาง รพ.ศูนย์พิษณุโลก รพ.มหาราชนครราชสีมา รพ.ศรีนครินทร์ รพ.ขอนแก่น รพ.สรรพสิทธิประสงค์ รพ.ศรีสะเกษ รพ.ศูนย์อุดรธานี รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช รพ.สุราษฎร์ธานี รพ.หาดใหญ่ รพ.สงขลานครินทร์ รพ.พระปกเกล้าจันทบุรี รพ.รามาธิบดี รพ.จุฬาลงกรณ์ รพ.พระมงกุฎเกล้า และสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติ เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายบางส่วนในการปลูกถ่ายไขกระดูกจนถึงปัจจุบันเป็นจำนวนกว่า 200 ราย

2 ศ.นพ.สุรเดช หงส์อิง เข้าเฝ้ารับประทานงินช่วยเหลือ_resize

          ทั้งนี้ เพื่อเทิดพระเกียรติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ วันที่ 13 กรกฎาคม 2567 นี้ กองทุนโรคมะเร็งในเด็กฯ ร่วมกับ มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ และโรงพยาบาลเด็กสมิติเวช จัดงานประชุมวิชาการเรื่อง “ความก้าวหน้าในการรักษาโรคมะเร็งในเด็ก” เพื่ออัพเดทองค์ความรู้และนวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ๆเกี่ยวกับความก้าวหน้าในการรักษาโรคมะเร็งในเด็ก ให้แก่ทีมแพทย์ พยาบาล เภสัชกร และบุคลากรทางการแพทย์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย  ซึ่งมีผู้สนใจเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง โดยมี ศ.เกียรติคุณ พญ.ชนิกา ตู้จินดา ที่ปรึกษาฝ่ายบริหาร รพ.เด็กสมิติเวช และ พญ.สุรางคณา เตชะไพฑูรย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม รพ. สมิติเวช และรพ. บีเอ็นเอช และผู้อำนวยการ รพ. เด็กสมิติเวช เป็นประธานเปิดงาน และ ผศ.(พิเศษ)ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์ ประธานมูลนิธิคุณแม่คุณภาพ ณ ห้องประชุม  รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์

          ในการประชุมดังกล่าวมีการเสวนาวิชาการเพื่ออัพเดท “สถานการณ์โรคมะเร็งเด็กในประเทศไทย” โดยทีมวิทยากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งในเด็กจากโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศ นำโดย  ศ.นพ.สุรเดช หงส์อิง รพ.รามาธิบดี, รศ.นพ.ปิติ เตชะวิจิตร รพ.จุฬาลงกรณ์,  รศ.พญ.ชาลินี มนต์เสรีนุสรณ์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า, พญ.ยุจินดา เล็กตระกูล รพ.สรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี, พญ.ณัจวาย์ ยุทธสมภพ รพ.หาดใหญ่ และ ผศ.พิเศษ พญ.สมใจ กาญจนาพงศ์กุล สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี

6 ประชุมวิชาการ “ความก้าวหน้าในการรักษาโรคมะเร็งในเด็ก”_resize

          นอกจากนี้ ยังมีการอัพเดทนวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ๆครอบคลุมเรื่องความก้าวหน้าในการรักษาโรคมะเร็งในเด็ก ไม่ว่าจะเป็น หัวข้อ “รังสีรักษาด้วยโปรตอน” โดย รศ.พญ.กาญจนา โชติเลอศักดิ์ รพ.จุฬาลงกรณ์,  หัวข้อ “ยามุ่งเป้ากับโรคมะเร็งเด็ก” โดย นพ.พงศ์ภัค พงศ์พิชชา รพ.กรุงเทพ, หัวข้อ “การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดจากพ่อหรือแม่” โดย รศ.นพ.อุษณรัสมิ์ อนุรัฐพันธ์ รพ.รามาธิบดี,  หัวข้อ CAR T cell” ซึ่งเป็นการรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวแบบใหม่ด้วยการตัดต่อยีนเม็ดเลือดขาวลิมโฟไซต์เพื่อเพิ่มภูมิ (Chimeric Antigen Receptor T-Cell ; CAR T-Cell) โดย พญ.ชญามน ทักษ์ประดิษฐ์ รพ.ศิริราช และหัวข้อ “การปลูกถ่ายตับในมะเร็งตับ” โดย ผศ.นพ.ชลศักดิ์ ถิรภัทรพันธ์ รพ.รามาธิบดี

4 เสวนา “สถานการณ์โรคมะเร็งเด็กในประเทศไทย”_resize

          ศ.นพ.สุรเดช หงส์อิง กล่าวในตอนท้ายว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งในเด็กมีอุบัติการณ์ในแต่ละปีสูงถึง 1,000 ราย ซึ่งมีอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 15 ปี โดยโรคมะเร็งเด็กที่พบมากที่สุดคือโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือลูคีเมีย (Leukemia)ร้อยละ 30 รองลงมาคือโรคมะเร็งสมอง ร้อยละ 20 โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ร้อยละ 15 โรคมะเร็งต่อมหมวกไต ร้อยละ 10 ส่วนโรคมะเร็งไต โรคมะเร็งกระดูกและกล้ามเนื้อลาย โรคมะเร็งตับ โรคมะเร็งลูกนัยน์ตา และโรคมะเร็งอื่น ๆ พบในสัดส่วนที่เท่ากัน คือร้อยละ 5  ซึ่งสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งในเด็ก ส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวข้องกับกรรมพันธุ์ พบแค่ประมาณร้อยละ 1-3 เท่านั้นที่อาจมาจากกรรมพันธุ์ เช่น โรคมะเร็งจอภาพตาของนัยน์ตา ส่วนโรคมะเร็งในเด็กชนิดอื่นยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าอะไรเป็นต้นเหตุ

          “โรคมะเร็งในเด็กมีโอกาสรักษาหายได้มากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสารพันธุกรรมของเซลล์มะเร็งของโรคมะเร็งในเด็ก มีการเปลี่ยนแปลงไม่มาก ทุกๆ เซลล์มีลักษณะคล้ายคลึงกันในคน ๆ เดียวกัน จึงตอบสนองต่อการรักษาเหมือนกันและตอบสนองได้ดีมาก ประกอบกับในปัจจุบันมีความก้าวหน้าในการรักษาโรคมะเร็งในเด็กกว่าแต่ก่อนมาก” ศ.นพ.สุรเดช กล่าว

5 ทีมวิทยากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งในเด็กจากโรงพยาบาลต่างๆ_resize

          ทั้งนี้ ยังมีผู้ป่วยโรคมะเร็งในเด็กอีกเป็นจำนวนมากที่กำลังรอรับการช่วย เหลือจากกองทุนฯ ซึ่งในปัจจุบัน กองทุนยังขาดแคลนปัจจัยสนับสนุนอีกมากและคงเป็น เรื่องที่น่ายินดีหากท่าน เป็นอีกคนหนึ่ง ที่มีส่วนร่วมแบ่งปันน้ำใจคืนชีวิตใหม่ที่สดใสให้แก่หนูน้อยเหล่านั้น เพียงโอนเงินเข้าบัญชีชื่อ “กองทุนโรคมะเร็งในเด็ก ในพระอุปถัมภ์ฯ” ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขา อ่อนนุช บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 133-2-08742-3 และใบเสร็จรับเงินสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้

          13 กรกฎาคม นี้ เป็นวันคล้ายวันประสูติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีกรมหมื่นสุทธนารีนาถ ขอเชิญชวนประชาชนร่วมกันถวายพระพร ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญมีพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ตลอดไป

ปิดความเห็น บน ประชุมวิชาการ “ความก้าวหน้าในการรักษาโรคมะเร็งในเด็ก” เพื่อเทิดพระเกียรติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ

ห้องเรียนจำลองนิวซีแลนด์ ฝึกแก้โจทย์ เรียนรู้การออกแบบ และทำงานเป็นทีม

ห้องเรียนจำลองนิวซีแลนด์ ฝึกแก้โจทย์ เรียนรู้การออกแบบ และทำงานเป็นทีม

Posted on 11 กรกฎาคม 2024 by writer

ENZ-1 พิธีเปิดงาน_resize

       ฯพณฯ นายโจนาธาน คิงส์  เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย เป็นประธานเปิดงานศึกษาต่อเมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์  (Study in Christchurch Education Fair) จัดโดยหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) สถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย ร่วมกับ เอเจ้นท์ตัวแทนแนะแนวการศึกษต่อนิวซีแลนด์ และสถาบันการศึกษาและโรงเรียนกว่า 20 แห่งจากเขตการศึกษาเมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ ร่วมกันจัดขึ้น อาทิ โรงเรียนมัธยม  มหาวิทยาลัย สถาบันภาษา และสถาบันเทคโนโลยีเพื่อเปิดโอกาสให้น้อง ๆ นักเรียน นักศึกษาไทย ที่สนใจไปเรียนต่อนิวซีแลนด์ขอรับคำแนะนำปรึกษากับตัวแทนสถาบันและโรงเรียนอย่างใกล้ชิด โดยมี นางสเตฟี พอร์ตเตอร์ (Stefi Porter) ผู้จัดการฝ่ายพันธมิตร จากหน่วยงาน Christchurch Educated นางสาวช่อทิพย์ ประมูลผล  ผู้อำนวยการประจำประเทศไทยและฟิลิปปินส์ และ นางสาวจารุวรรณ พงษ์จารุวัฒน์  ผู้อำนวยการด้านการศึกษา หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ สถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย ให้การต้อนรับ  ณ โรงแรม คราวน์พลาซ่า กรุงเทพฯ ลุมพินีพาร์ค เมื่อเร็วๆนี้

       งานนี้ได้รับความสนใจจากน้องๆนักเรียน นักศึกษา ตลอดจนพ่อแม่ผู้ปกครองเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง โดยน้องๆที่เข้าร่วมงานได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ห้องเรียนจำลองนิวซีแลนด์ ซึ่งสอนโดยครูนิวซีแลนด์ ในหัวข้อ “Experience a New Zealand High School Classroom (STEM) โดยแบ่งน้องๆออกเป็นทีมและให้แต่ละทีมช่วยกันทำภารกิจที่ท้าทาย ในการฝึกออกแบบสะพานด้วยแท่งไม้ขนาดเท่าหลอดกาแฟเพียง 20 แท่งพร้อมเทปกาว ให้มีความแข็งแรง พร้อมมีการทดสอบความแข็งแกร่งของสะพานที่แต่ละทีมออกแบบ ด้วยการนับจำนวนขวดน้ำที่สะพานสามารถรองรับได้ ซึ่งน้องๆต่างสนุกสนานและชื่นชอบกับกิจกรรม เนื่องจากได้ฝึกทดสอบแก้โจทย์ที่ท้าทายในเวลาจำกัด อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ เรียนรู้การออกแบบ และฝึกการทำงานเป็นทีมอีกด้วย

ENZ-4 อบรมเอเจ้นท์และให้คำปรึกษา_resize

       นอกจากนี้ ยังมีห้องเรียนจำลองเวิร์คช็อปฝึกการออกแบบความคิด Design Thinking ในหัวข้อ “Designing Tomorrow: Sustainable Spaces for a Brighter Future” ฝึกการคิดเชิงออกแบบ เพื่อช่วยให้เราเข้าใจผู้คน ค้นหา ปัญหา และสร้างแนวทางแก้ไข โดยมี 5 ขั้นตอน ได้แก่

  1. เอาใจใส่เข้าใจผู้คน (Empathize) – มุ่งเน้นไปที่ความต้องการของผู้คน หรือกลุ่มเป้าหมาย
  2. กำหนดแนวทาง (Define) – ระบุปัญหาเฉพาะ
  3. คิดสร้างสรรค์ (Ideate) – มีความคิดสร้างสรรค์หาโซลูชั่นใหม่ๆ
  4. การสร้างต้นแบบ (Prototype) – สร้างสรรค์ต้นแบบโซลูชั่นวิธีแก้ปัญหา
  5. ทดสอบ (Test) – ทดลองใช้

ENZ เวิร์คช็อป Design Thinking_resize

       สำหรับน้องๆ ที่สนใจอยากเรียนต่อประเทศนิวซีแลนด์ โอกาสมาแล้วกับงานใหญ่ประจำปี หนึ่งปีมีหนเดียว พบกันในงานการศึกษานิวซีแลนด์ 2024  (New Zealand Education Fair 2024)  ขอรับคำปรึกษาได้โดยตรงจากกว่า 50 สถาบันการศึกษานิวซีแลนด์ ทั้งระดับมัธยม มหาวิทยาลัย สถาบันเทคโนโลยี และสถาบันภาษา พร้อมทุนการศึกษามูลค่าสูงสุดกว่า 2 ล้านบาท  ทดลองเรียนในคลาสเรียนจำลองจากครูนิวซีแลนด์ และลุ้นรับรางวัลตั๋วเครื่องบินไปนิวซีแลนด์  วันเสาร์ที่ 31 ส.ค. นี้ 11.00-17.00 น. สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ 2 ชั้น 5 สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมงาน (ฟรีตลอดงาน) หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.learnenglishnewzealand.com/nzeducationfair

ปิดความเห็น บน ห้องเรียนจำลองนิวซีแลนด์ ฝึกแก้โจทย์ เรียนรู้การออกแบบ และทำงานเป็นทีม

“NGG JEWELLERY” จับมือ Disney ส่งคอลเลคชั่นพิเศษ! กำไรทองคำมินิมอล “DISNEY 100 YEAR LIMITED EDITION X CHARMMY” 6 คาแรกเตอร์สุดเก๋

“NGG JEWELLERY” จับมือ Disney ส่งคอลเลคชั่นพิเศษ! กำไรทองคำมินิมอล “DISNEY 100 YEAR LIMITED EDITION X CHARMMY” 6 คาแรกเตอร์สุดเก๋

Posted on 10 กรกฎาคม 2024 by writer

        NGG JEWELLERY อาณาจักรเครื่องประดับแท้จากธรรมชาติ  จับมือ Disney  เปิดตัวสุดพิเศษ!คอลเลคชั่นใหม่ ‘DISNEY 100 YEAR LIMITED EDITION X CHARMMY’ ลงตลาดทองคำแท้ สุดเอ็กซ์คลูซีฟ  ด้วยลวดลายเป็นเอกลัษณ์ กับคาแรคเตอร์เด่นๆ ของดีสนีย์ มาเป็นชิ้นงานเครื่องประดับสุดเก๋ ผสมผสานแฟชั่นยุคใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “CIRCLE OF CHARM” วงล้อแห่งเสน่ห์ ไม่มีวันจบ มาให้ทุกท่านสะสมกัน  เผยเป็น Limited edition ที่หายากมาก วางจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ – 30 ก.ย.นี้เท่านั้น พร้อมจัดโปรฯสุดพิเศษ สมัครสมาชิกและรับสิทธิพิเศษมากมาย สนใจซื้อทางออนไลน์ เว็บไซต์ Facebook  LINE  และNGG jewellery ทุกสาขา ทั่วประเทศ…

DSC_5857-2_resize

        นางสาวปัญจรัตน์ ทรัพย์หิรัญกุล ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ บริษัท เอ็นจีจี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด เปิดเผยว่า  บริษัท เอ็นจีจี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด อาณาจักรเครื่องประดับแท้ของขวัญจากธรรมชาติรวมศาสตร์และศิลป์แห่งเครื่องประดับ ทั้งเพชร ทองคำ อัญมณี และนาฬิกา ได้เป็นที่ไว้วางใจของลูกค้ามาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี มีความน่าเชื่อถือด้วยมาตรฐานระดับสากล ในทุกขั้นตอนการผลิตและจัดจำหน่าย ด้วยกระบวนการตรวจสอบคุณภาพ 100% ภายใต้การบริหารมืออาชีพทั้งประสบการณ์และความรู้ตามมาตรฐานสากล ร่วมฉลองความสำเร็จในฐานะแบรนด์เครื่องประดับชาร์มทองคำบริสุทธิ์ ดีไซน์เป็นเอกลักษณ์

        เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบดิสนีย์ 100 ปีจึงนำคาแรคเตอร์เด่นๆของดีสนีย์มาออกแบบเป็นชิ้นงานเครื่องประดับ ที่สุดน่ารักผสมผสานแฟชั่นยุคใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “CIRCLE OF CHARM” วงล้อแห่งเสน่ห์ ไม่มีวันจบ ทั้งนี้ได้รับแรงบัลดาลใจจากเรื่องราวอันแสนสนุกในวัยเด็กให้กลับมาอีกครั้งในรูปแบบของ ชาร์มทอง ที่รวมเอาทุกคาแรกเตอร์ของดีสนีย์มาให้ทุกท่านสะสมกัน นับเป็นการออกผลิตภัณฑ์กับคอลแลคชั่นใหม่นี้ Make Moments Magical with Our Cute Gold Bracelets ที่สำคัญเพราะเป็นสินค้า คอลเลคชั่นพิเศษ และเป็นlimited edition ระยะเวลาการจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายน 2567 เท่านั้น ‘DISNEY 100 YEAR LIMITED EDITION X CHARMMY’ มี 6 คาแรกเตอร์สุดน่ารัก คือ…

messageImage_1719478007786_resize

        1.)  Mickey Mouse น้องหนูมิกกี้เมาส์ ผู้มองโลกในแง่ดี มีความกระตือรือร้น ถ่อมตัวและเรียบง่าย จาก mickey mouse & Friend

        2.) Minnie Mouse น้องหนูมินนี่เมาส์ เป็นคู่หมั้นของมิคกี้ นิสัยอ่อนหวาน อ่อนไหว ชอบการต่อสู้และมีอารมณ์ที่ค่อนข้างหุนหันพลันแล่น จาก mickeymouse & Friend

        3.) Lotso Bear หรือ “หมีมันม่วง ” Lotso มันเป็นตุ๊กตาหมีที่แสนจะน่ารักน่ากอดสำหรับเดซี่ เด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเธอได้รับมันมาจากวันคริสมาสในปีๆ หนึ่งที่พ่อแม่ของเธอให้เป็นของขวัญ

        4.) Mulan เจ้าหญิงดิสนีย์ อย่าง “มู่หลาน” เป็นหญิงแกร่งจอมดื้อ ที่ไม่เคยจะทำตัวเรียบร้อยได้เหมือนผู้หญิงทั่วไป เธอรักครอบครัวของเธอมาก มีความกล้าหาญ ความเฉลียวฉลาด และความมุ่งมั่น

        5.) Rapunzel “ราพันเซล” เป็นคนที่หลงใหลในงานศิลปะเป็นชีวิตจิตใจ เธอคือเจ้าหญิงดิสนีย์ เป็นตัวอย่างที่ดีของเด็กผู้หญิงที่หัวคิดทันสมัย ที่มีทั้งความหวานและความมุ่งมั่นอยู่ในตัวคน

        6.) Aurora เจ้าหญิงออโรร่าเป็น “เจ้าหญิงดิสนีย์”  สง่างาม ขี้เล่น และมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ เธอผูกมิตรกับสัตว์น้อยใหญ่ที่อาศัยอยู่รอบๆ กระท่อมท้ายป่า รักและกตัญญูต่อนางฟ้าแม่ทูนหัวทั้งสามมาก จากเรื่อง Sleeping Beauty

messageImage_1719477992739_resize

        “เรามาร่วมกันสร้างช่วงเวลาแห่งความมหัศจรรย์ไปกับ Charmmy Jewelry By NGG ด้วยสร้อยข้อมือทองคำสุดน่ารักจากคอลเลกชั่นพิเศษ ‘DISNEY 100 YEAR LIMITED EDITION X CHARMMY’ ด้วยกัน ที่ผลิตจากทอง 9K ที่รวมเอาคาแรกเตอร์สุดน่ารักจาก Mickey & Friends , Toy Story , และ Princess Celebration มาประดับให้กลายเป็นกำไลทองคำมินิมอลสุดพิเศษ ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบคาแรกเตอร์ไหน ก็จะเติมเต็มความฝันและความสุขให้กับทุกคน มาสร้างช่วงความมหัศจรรย์ได้แล้ววันนี้ ที่ NGG Jewellery ทุกสาขาทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์

        ทั้งนี้ สินค้าพร้อมจัดส่งลิขสิทธิ์แท้ 100% จัดส่งฟรีทั่วประเทศ และพิเศษสุดสำหรับผู้ที่สมัครสมาชิก NGG ผ่าน LINE รับทันที! 1 Gold Coin มูลค่ากว่า 200 บาท และสิทธิพิเศษอีกมากมาย ท่านสามารถซื้อได้ที่ NGG jewellery ทุกสาขาทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมคลิกที่ https://lin.ee/0uUp0XM หรือ INBOX : https://bit.ly/4217vtr Website : https://nggjewellery.com/collection/charmmy  LINE OA : https://lin.ee/0uUp0XM “ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ บริษัท เอ็นจีจี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด กล่าวในท้ายสุด

ปิดความเห็น บน “NGG JEWELLERY” จับมือ Disney ส่งคอลเลคชั่นพิเศษ! กำไรทองคำมินิมอล “DISNEY 100 YEAR LIMITED EDITION X CHARMMY” 6 คาแรกเตอร์สุดเก๋

ดีป้า สานต่อหลักสูตร DIGITAL JUMPSTART รุ่นที่ 2 เพื่อผู้บริหารยุคใหม่ (Young Digital CEO)  ทั้งภาครัฐ เอกชนร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างก้าวกระโดด

ดีป้า สานต่อหลักสูตร DIGITAL JUMPSTART รุ่นที่ 2 เพื่อผู้บริหารยุคใหม่ (Young Digital CEO) ทั้งภาครัฐ เอกชนร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างก้าวกระโดด

Posted on 08 กรกฎาคม 2024 by writer

          ดีป้าสานต่อหลักสูตร DIGITAL  JUMPSTART (DJS) รุ่นที่ 2  สำหรับผู้บริหารยุคใหม่ (Young Digital CEO)  จากหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมการยกระดับองค์ความรู้และพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลจากเริ่มต้นและเติบโตอย่างก้าวกระโดดเตรียมความพร้อมให้ก้าวทันโลกยุคดิจิทัล  หลังจากประสบความสำเร็จจากรุ่นที่1 พร้อมเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์และถอดบทเรียนจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ กว่า 40ท่าน รวมถึงผู้บริหารจากองค์กรชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ ท่านที่สนใจสามารถสมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 6 กันยายน 2567 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.depa.or.th/th/article-view/depa-DJS-2

412B-9F0C-FC92FCC5540D_resize

          ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า การพัฒนากำลังคนและการสร้างเสริมศักยภาพบุคลากรดิจิทัลถือเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญที่ ดีป้า ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นหมุดหมายสำคัญของประเทศในยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ซึ่ง ดีป้า มุ่งส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้และทักษะดิจิทัลแก่ประชาชนไทยอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมในทุกระดับ
ด้วยความร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงสถาบันการศึกษา ผ่านกลไกการ Upskill, Reskill และ New Skill โดยหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายสำคัญคือ ผู้บริหารจากองค์กรหรือหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมา ดีป้า ดำเนินการยกระดับกลุ่มผู้บริหารผ่านหลักสูตรต่างๆ แล้วมากกว่า 5,600 ราย (ปีที่ผ่านมา)  และหลักสูตร DIGITAL JUMPSTART รุ่นที่ 1 มีจำนวน 55 คน

          ดีป้า จึงสานต่อหลักสูตร DIGITAL JUMPSTART (DJS) รุ่นที่ 2 หลักสูตรที่ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างก้าวกระโดด เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับผู้บริหารรุ่นใหม่ (Young Digital CEO) จากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศต่อไป พร้อมเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์และถอดบทเรียนจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ กว่า 40 ท่าน รวมถึงผู้บริหารจากองค์กรชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ ก่อนนำความรู้ที่ได้รับมาประยุกต์ใช้ต่อยอดวิสัยทัศน์และพัฒนากระบวนการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรและองค์กรด้วยดิจิทัล ตลอดจนเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์ระหว่างผู้บริหาร

PR-DJS_2_resize

          ทั้งนี้ ผู้บริหารยุคใหม่ (Young Digital CEO) ที่เข้าร่วมอบรมในหลักสูตร DIGITAL JUMPSTART จะได้รับการพัฒนาความรู้และทักษะดิจิทัลให้ก้าวทันโลกไปกับ 7 เนื้อหาการเรียนรู้ที่เข้มข้น  คือ

  • การพัฒนาความรู้และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีด้านข้อมูลขนาดใหญ่ (Digital Big Data) เพื่อนำไปขับเคลื่อนองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การพัฒนาความรู้และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอัตโนมัติ (Digital Automation) เพื่อการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
  • การพัฒนาทักษะและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเชื่อมโยงระหว่างอุปกรณ์ บุคคล ธุรกิจ และสังคม (Digital Connect) เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจและสังคม ทั้งในโลกกึ่งเสมือนและโลกเสมือน
  • การพัฒนาความรู้ความเข้าใจในการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Access) เพื่อให้เข้าใจเนื้อหากฎหมายที่เกี่ยวข้อง และตระหนักถึงความสำคัญของความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Cyber Security)
  • การบริหารจัดการและพัฒนาองค์กร (Digital Transformation, Management and Marketing)
  • การสร้างเครือข่ายและการถอดบทเรียน อาทิ Google Thailand,  Thailand Digital Valley ,Hutchison Ports Thailand (HPT),   EEC Automation Park ,AIS Evolution Experience Center (AIS EEC), Sea (Thailand)   และAWS (Thailand)
  • การถอดบทเรียน พร้อมแลกเปลี่ยนแนวคิดและประสบการณ์จากองค์กรชั้นนำ ณ นครเซินเจิ้นและนคร กวางโจวสาธารณรัฐประชาชนจีน

          ทั้งนี้ ผู้บริหารที่สนใจสมัครเข้าร่วมอบรมหลักสูตร DIGITAL JUMPSTART ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่  6 กันยายน 2567 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 0831166581 คุณชัยวัฒน์ และ0929639562 คุณกษิดิ์เดช หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.depa.or.th/th/article-view/depa-DJS-2    

ปิดความเห็น บน ดีป้า สานต่อหลักสูตร DIGITAL JUMPSTART รุ่นที่ 2 เพื่อผู้บริหารยุคใหม่ (Young Digital CEO) ทั้งภาครัฐ เอกชนร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างก้าวกระโดด

New Zealand top of the world in university sustainability stewardship. New Zealand universities have come out on top of the world for sustainability stewardship in the Times Higher Education Impact Rankings 2024

New Zealand top of the world in university sustainability stewardship. New Zealand universities have come out on top of the world for sustainability stewardship in the Times Higher Education Impact Rankings 2024

Posted on 26 มิถุนายน 2024 by writer

         New Zealand universities’ approach to sustainability and equality has been announced as world-leading by Times Higher Education (THE) in its most recent Impact Rankings (2024). The stewardship rankings saw New Zealand score an average of 85.3 to come out ahead of Australia (84.4) and Hong Kong (81.9). All eight New Zealand universities participated in the rankings.

         Now in its sixth year, the Impact Rankings is the only ranking system in the world that measures universities’ contributions to the United Nations’ Sustainability Goals (UN SDG’s). The Rankings assess the commitment made by universities to sustainability across four broad areas: research, stewardship, outreach, and teaching.

         In topping the table for sustainability stewardship, New Zealand’s universities have scored well against indicators such as tracking food waste and having sustainable food choices on campus (SDG 2), the proportion of senior female academics (SDG 5), having water reuse policies and measurements (SDG 6), ensuring energy efficiency with renovations of buildings (SDG 7), and guaranteeing a living wage (SDG 8).

6 ENZ_resize

         New Zealand universities also came second equal in the world against sustainability outreach, meaning high scores were achieved for contributing to policies addressing poverty (SDG 1), collaborating with health institutions (SDG 3), providing programmes for the local community to learn about energy efficiency (SDG 7), participating in cooperative planning for climate change disasters (SDG 13), and providing expert advice to government (SDG 16).

         ENZ’s Acting Chief Executive Dr Linda Sissons welcomed the results and said the global recognition for New Zealand’s universities working hard to make a positive impact in the face of pressing environmental and social challenges world-wide was significant.

         “New Zealand’s education system is guided by Kaitiakitanga (the Māori concept of guardianship). This principle instils a deep sense of connection to our land and a commitment to ensuring its health and vitality for future generations.

5 Sustainability Stewardship

         “Kaitiakitanga informs the approach taken by our universities to resource management, conservation, and sustainable development that all contribute to the UN’s SDGs particularly in the areas of food security, bioenergy, sustainable urban development, and climate change,” said Dr Sissons.

         Dr Sissons added “It is incredibly positive to have our approach to sustainability stewardship and outreach recognised as world leading. This is particularly important to us as we know that students around the globe are increasingly prioritising environmental and social responsibility and choosing to study at institutions that align with their personal values.”

         In this year’s Impact Rankings, a record 2,152 universities from 125 countries/regions were assessed. Progress is measured for each of the individual 17 SDGs, and across the goals as a whole. View the full Impact Rankings 2024 results here.

ปิดความเห็น บน New Zealand top of the world in university sustainability stewardship. New Zealand universities have come out on top of the world for sustainability stewardship in the Times Higher Education Impact Rankings 2024

มหาวิทยาลัยดังนิวซีแลนด์โชว์เคสพัฒนายั่งยืน GSDC 2024 รั้งอันดับ 1 เป็นผู้นำของโลกด้านการจัดการความยั่งยืนจาก THE

มหาวิทยาลัยดังนิวซีแลนด์โชว์เคสพัฒนายั่งยืน GSDC 2024 รั้งอันดับ 1 เป็นผู้นำของโลกด้านการจัดการความยั่งยืนจาก THE

Posted on 24 มิถุนายน 2024 by writer

5 Sustainability Stewardship

          มหาวิทยาลัยชั้นนำของนิวซีแลนด์เป็นผู้ร่วมสนับสนุนการจัดงานและเข้าร่วมงานประชุมนานาชาติว่าด้วยเรื่อง “การพัฒนาอย่างยั่งยืน Global Sustainable Development Congress 2024 (GSDC 2024)” เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เกี่ยวกับความยั่งยืนที่ภาคการศึกษาและมหาวิทยาลัย จะสามารถมีส่วนช่วยผลักดันและสนับสนุนความยั่งยืนระดับโลก  จัดโดยสำนักงานปลัดกระทรวง การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และสถาบันจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก Times Higher Education (THE) โดยมีผู้นำมหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ ธุรกิจ องค์กรพัฒนาเอกชนและภาคประชาสังคม เข้าร่วมงานมากกว่า 3,000 คน จาก 90 ประเทศทั่วโลก ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อเร็วๆนี้

1 ENZ_ Dawn Freshwater (UOA)_resize

          นิวซีแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศ ที่ให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนเป็นอันดับต้นๆของโลก ทั้งภาคการท่องเที่ยว ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะภาคการศึกษาและมหาวิทยาลัยที่ก้าวขึ้นมาสู่อันดับต้นๆของโลกในด้านจัดการดูแลความยั่งยืน จากการจัดอันดับผลกระทบด้านการศึกษาของ Times Higher Education ปีล่าสุด (2024)

มหาวิทยาลัยนิวซีแลนด์ได้รับการจัดอันดับ 1 เป็นผู้นำของโลกด้านการจัดการความยั่งยืน

          มหาวิทยาลัยนิวซีแลนด์ได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 ของโลกด้านการจัดการความยั่งยืนใน Times Higher Education Impact Rankings 2024 โดยสถาบันจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก Times Higher Education (THE) ได้ประกาศว่า แนวทางการจัดการความยั่งยืนและความเท่าเทียมของมหาวิทยาลัยในนิวซีแลนด์นั้นเป็นผู้นำระดับโลกในการจัดอันดับ Impact Rankings (ปี 2024) ล่าสุด โดยนิวซีแลนด์มีคะแนนเฉลี่ยสูงที่สุดถึง 85.3 รองลงมาคือออสเตรเลีย (84.4) และฮ่องกง (81.9) ซึ่งมหาวิทยาลัยทั้งหมด 8 แห่งในนิวซีแลนด์เข้าร่วมในการจัดอันดับนี้

          ทั้งนี้ การจัดอันดับ Impact Rankings ได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 6 แล้ว เป็นระบบการจัดอันดับเพียงระบบเดียวในโลกที่วัดผลการมีส่วนร่วมของมหาวิทยาลัยในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs) การจัดอันดับนี้ประเมินความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยต่อความยั่งยืนใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ การวิจัย การดูแลทรัพยากร การเผยแพร่ และการสอน ซึ่งในปีนี้มีมหาวิทยาลัย 2,152 แห่งจาก 125 ประเทศ/ภูมิภาค ได้รับการประเมิน โดยมหาวิทยาลัยในนิวซีแลนด์ได้รับคะแนนสูงในการติดตามขยะอาหารและการมีอาหารที่ยั่งยืนในมหาวิทยาลัย (SDG 2) สัดส่วนของนักวิชาการหญิงอาวุโส (SDG 5) การมีนโยบายและการวัดการใช้น้ำซ้ำ (SDG 6) การรับประกันการประหยัดพลังงานด้วยการปรับปรุงอาคาร (SDG 7) และการรับประกันค่าจ้างที่เพียงพอต่อการดำรงชีพ (SDG 8)

2 ENZ-Neil Quigley (Waikato)_resize

ผู้นำจาก 3 มหาวิทยาลัยชั้นนำร่วมเวทีโลก  GSDC 2024 ที่ประเทศไทย

          ภายในงาน Global Sustainable Development Congress 2024  ทางมหาวิทยาลัยชั้นนำของนิวซีแลนด์ นำโดย มหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์  (University of Auckland; UOA), มหาวิทยาลัยแคนเทอร์เบอรี (University of Canterbury)  และมหาวิทยาลัยไวกาโต( University of Waikato)ได้ร่วมเป็นหนึ่งในสถาบันที่จะส่งต่อแนวคิด ความรู้ และ วิธีการต่างๆที่ทางมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการเพื่อส่งเสริมในเรื่องของสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน

          ศาสตราจารย์ ดอน เฟรชวอเตอร์ (Dawn Freshwater, Vice-chancellor and professor, University of Auckland) รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ (University of Auckland; UOA) เปิดเผยว่า ความคิดเห็นที่แตกต่างและความขัดแย้งทางความคิดของชุมชนและสังคม จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตประจำวันของนักเรียน นักวิชาการ พนักงาน ผู้สนับสนุน และผู้คนในชุมชน ซึ่งสถาบันการศึกษามีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการสนทนาสาธารณะในประเด็นที่หลากหลาย โดยเรามุ่งเน้นที่ความสำคัญของการพัฒนาสังคมที่ยุติธรรมและมีวัฒนธรรมเพื่อที่จะสามารถส่งต่ออนาคตที่ยั่งยืนได้ เป็นเรื่องง่ายมากที่เราจะติดกับดักทางเทคโนโลยีเพื่อเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน แต่เรายังคงมีอีกหลายหนทางที่จะโน้มน้าวให้ทุกคนเข้าใจ คิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่ยังคงต้องเคารพความแตกต่างในแต่ละวัฒนธรรมเพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในอนาคตที่ยั่งยืนอีกด้วย

          “ไม่เพียงแค่การให้การศึกษาที่มีคุณภาพเท่านั้น เรายังทำงานกับโรงเรียนและการศึกษาภาคบังคับและให้ผู้คนเข้าถึงออนไลน์สำหรับการฝึกอบรม STEM ดังนั้นนโยบายของเราจริงๆแล้วคือ การเริ่มก่อนที่เด็กๆและเยาวชนก่อนจะเข้ามหาวิทยาลัย โดยจะช่วยให้นักเรียนมีแนวคิดในเรื่องของความยั่งยืน และหลักสูตรใหม่ของเราจะมุ่งเน้นสร้างบัณฑิตให้เข้าใจเกี่ยวกับความยั่งยืน และเรียนรู้จากการปฏิบัติจริงในนิวซีแลนด์” ศาสตราจารย์ ดอน เฟรชวอเตอร์ กล่าวและเสริมว่า

3 ENZ-Brett Berquist and Professor Simon Kingham (UC)_resize

          “หนึ่งในสิ่งที่เราต้องคำนึงถึง นั่นก็คือ เทคโนโลยีในอนาคตและแม้แต่เทคโนโลยีที่เรากำลังใช้อยู่ในวันนี้ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง เราต้องคำนึงถึงวิธีการที่เราจะสามารถสนับสนุนนักศึกษาของเรา ที่จะเป็นบัณฑิตในอนาคต และเป็นพลเมืองที่สำคัญนิวซีแลนด์และของโลก ที่จะเตรียมพร้อมในการรับเทคโนโลยี AI และอื่นๆที่เกิดขึ้นจาก AI รวมถึงเทคโนโลยีดิจิทัลในแบบผสมผสานให้เข้ากับชีวิตของพวกเขาได้”

          หนึ่งในการแสดงถึงเทคโนโลยีเหล่านั้นได้สะท้อนในรูปแบบการจัดบูทของมหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ในงาน GSDC ที่มีทั้งจอ LED โชว์ภาพเคลื่อนไหว และ VR reality ให้ผู้เยี่ยมชมสัมผัสบรรยากาศเสมือนจริงของนิวซีแลนด์ได้ภายในงาน GSDC 2024

          มร. นีล ควิกลีย์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยไวกาโต (Neil Quigley, Vice-chancellor and ญPresident, University of Waikato) เปิดเผยว่า รู้สึกโชคดีที่มหาวิทยาลัยไวกาโตตั้งอยู่ที่ประเทศนิวซีแลนด์ที่มีชื่อเสียงและพื้นฐานที่ดีด้านความยั่งยืนอยู่แล้ว แต่เราก็ยังคงส่งเสริมความคิดริเริ่มในหลากหลายด้านทั่วทั้งมหาวิทยาลัยเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน ถึงแม้ว่าทางมหาวิทยาลัยไวกาโตจะมุ่งเน้นทางด้านการวิจัย แต่ก็ยังมุ่งเน้นในด้านของความยั่งยืนและความเป็นสากลในหลักสูตรอีกด้วย

          “สำหรับอนาคตเรากำลังดำเนินการโปรแกรมใหม่ๆในด้านสุขภาพ ซึ่งรวมถึงการพยาบาล และการผดุงครรภ์ เภสัชศาสตร์ และเราหวังว่าจะได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลสำหรับแพทยศาสตร์ โปรแกรมใหม่จะสามารถทำให้เราก้าวข้ามปัญหาและเทคโนโลยีเก่าเพื่อที่เราจะมุ่งไปสู่อนาคตได้” มร. นีล ควิกลีย์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยไวกาโต กล่าว

4 ENZ- UOA Booth_resize

          ทางด้านของ มร. เบร็ต เบอร์ควิสต์ ผู้ช่วยรองอธิการบดีด้านความร่วมมือ มหาวิทยาลัยแคนเทอร์เบอรี่ (Mr.Brett Berquist, Assistant vice-chancellor for engagement, University of Canterbury) ได้ให้ความเห็นร่วมกับ ศาสตราจารย์ ไซมอน คิงแฮม ศาสตราจารย์ด้านภูมิศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคนเทอร์เบอรี และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรี (Professor Simon Kingham, Geography Professor, UC) ว่า การพัฒนาอย่างยั่งยืนนั้นสำคัญมากสำหรับโลกโดยรวม นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงมีผู้คนเข้าร่วมงานกว่า 3,000 คนในงานที่ใหญ่ที่สุดที่ Times Higher Education เคยจัดขึ้น นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ได้เห็นผู้คนมากมายจากหลากหลายประเทศในงานประชุม GSDC 2024 ที่กรุงเทพฯ ทุกคนต่างมุ่งเน้นไปที่ความยั่งยืนในระดับโลกสำหรับประเทศและสถาบันของตนเอง ดังนั้น สิ่งที่เรากำลังพูดถึงในเวทีสนทนาคือ ตัวอย่างจากนิวซีแลนด์ เราพูดถึงบริบทของสถาบันของเรา ประเทศของเราและรัฐบาลของเรา แต่เรายังเปรียบเทียบกับตัวอย่างจากประเทศไทยและอินเดียกับผู้ร่วมอภิปรายคนอื่นๆ  ถึงการที่มหาวิทยาลัยทำงานร่วมกับภาคเอกชนเพื่อช่วยเหลือปัญหาต่างๆในชุมชน ที่เป็นอะไรที่นอกเหนือจากงานวิจัยเพราะนำไปใช้แก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน

          มหาวิทยาลัยชั้นนำของนิวซีแลนด์ มีเครื่องหมายด้านคุณภาพการศึกษาที่แข็งแกร่งมาก นอกจากนี้มหาวิทยาลัยทั้ง 8 แห่งของนิวซีแลนด์ยังได้ประกาศเป้าหมายสาธารณะในด้านความยั่งยืนและการร่วมกันแก้ไขปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศร่วมกับรัฐบาล ซึ่งเป็นปัญหาเรื่องความยั่งยืนที่สำคัญสำหรับพวกเราทุกคน

31 ส.ค. นี้ เชิญร่วมงานงานสำหรับการศึกษาสถานทูตนิวซีแลนด์ 2024 

          สำหรับน้องๆที่สนใจอยากเรียนต่อประเทศนิวซีแลนด์ โอกาสมาแล้วกับงานใหญ่ประจำปีการศึกษานิวซีแลนด์ หนึ่งปีมีหนเดียว พบกันในงานสำหรับการศึกษาสถานทูตนิวซีแลนด์ 2024  (New Zealand Education Fair 2024) ขอรับคำปรึกษาได้โดยตรงจากกว่า 50 สถาบันการศึกษานิวซีแลนด์ ทั้งระดับมัธยม มหาวิทยาลัย สถาบันเทคโนโลยี และสถาบันภาษา พร้อมทุนการศึกษามูลค่าสูงสุดกว่า 2 ล้านบาท  ทดลองเรียนในคลาสเรียนจำลองจากครูนิวซีแลนด์ และลุ้นรับรางวัลตั๋วเครื่องบินไปนิวซีแลนด์ เสาร์ที่ 31 ส.ค. นี้ 11.00-17.00 น. สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ 2 ชั้น 5 สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมงาน (ฟรีตลอดงาน) คลิ๊ก https://www.learnenglishnewzealand.com/nzeducationfair

ปิดความเห็น บน มหาวิทยาลัยดังนิวซีแลนด์โชว์เคสพัฒนายั่งยืน GSDC 2024 รั้งอันดับ 1 เป็นผู้นำของโลกด้านการจัดการความยั่งยืนจาก THE

NGG Jewellery ส่งคอลเล็กชั่นสุดพิเศษ! Petite E Signature คอลาบอเรชั่น ELLE x Gemalyn ชูจุดเด่นฝังพลอยกระเปาะตัว “E”

NGG Jewellery ส่งคอลเล็กชั่นสุดพิเศษ! Petite E Signature คอลาบอเรชั่น ELLE x Gemalyn ชูจุดเด่นฝังพลอยกระเปาะตัว “E”

Posted on 17 มิถุนายน 2024 by writer

DSC_5934_resize

          NGG Jewellery  ส่งคอลเล็กชั่นสุดพิเศษ Petite E Signature ที่คอลาบอเรชั่นกับ ELLE คอลเลคชันสุดพิเศษจาก ELLE x Gemalyn  ชูจุดเด่นด้วยเทคนิคฝังพลอยด้วยกระเปาะตัว E ครั้งแรกของเมืองไทย หลังประสบความสำเร็จอย่างงดงามกับ ‘De Paris Collection’ คอลเล็กชั่นแรกจาก Gemalyn  อัญมณีหลากสีสันได้รับแรงบันดาลใจจากสีท้องฟ้าของกรุงปารีส ล่าสุดรับเทศกาลสีสันแห่งความสุข PROUD OF RIDE เปล่งประกายความเป็นตัวคุณ ได้เปิดตัวคอลเล็กชั่น Petite E Signature  โดยตัวเรือนเป็นทอง 18.K มีให้เลือก 3 สี คือ White gold, Yellow gold และ Pink gold ล้อมเพชรธรรมชาติฝังลงตัวเรือน ดีไซน์แบบ Stacking ring เพิ่มความมินิมอล ให้สาวๆ ได้มิกซ์แอนด์แมตช์ อย่างสนุกสนาน จำหน่ายแล้วที่  NGG Jewellery ทุกสาขาทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ในทุกแพลตฟอร์ม

DSC_5823_resize

          นางสาวปัญจรัตน์ ทรัพย์หิรัญกุล ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ บริษัท เอ็นจีจี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด เปิดเผยถึง   “GEMALYN (เจมมาลิน)” แบรนด์เครื่องประดับสัญชาติไทย ที่นำเสนอความงดงามของพลอยแท้จากธรรมชาติได้อย่างลงตัว ตั้งแต่ออกแบบ คัดเลือกสีพลอย จนถึงรังสรรค์ออกมาเป็นเครื่องประดับที่รวมสีพลอยไว้สวยงามที่ผ่านมา Gemalyn ได้ปล่อยคอลเล็กชั่นแรก อย่าง “De Paris Collection”  โดยได้รับแรงบรรดาลใจจากสีท้องฟ้าของกรุงปารีส ซึ่งคอลาบอเรชั่นกับแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์จากฝรั่งเศสขวัญใจสาวๆ อย่าง ELLE และได้รับผลตอบรับด้วยดีจากกลุ่มลูกค้า  ล่าสุดเพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้าและต้อนรับเทศกาลสีสันแห่งความสุข PROUD OF RIDE เปล่งประกายความเป็นตัวคุณ จึงได้เปิดคอลเล็กชั่นใหม่สู่ตลาดเครื่องประดับ ให้มีสีสันในสไตล์ที่เป็นคุณกับคอลเลคชั่น  Petite E Signature ซึ่งคอลาบอเรชั่นกับ ELLE เพื่อให้เป็นคอลเลคชันสุดพิเศษจาก ELLE x Gemalyn โดดเด่นด้วยเทคนิคการฝังพลอยด้วยกระเปาะตัว E ครั้งแรกของประเทศไทย

          พร้อมกันนี้ คอลเลคชันสุดพิเศษนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากตัวอักษรแรกของ ELLE ที่ทรงพลังด้านแฟชั่น ซึ่งถือเป็นกระเปาะพิเศษที่ทาง Gemalyn และ ELLE รังสรรค์ขึ้นมาร่วมกัน โดยมีการฝังพลอยธรรมชาติหรือพลอยเนื้อแข็งมากถึง 7 ชนิด ไม่ว่าจะเป็น Blue Sapphire, Yellow Sapphire, Pink Sapphire, Orange Sapphire, Purple Sapphire, Tsavorite และ Ruby ที่ตอกย้ำการเป็นผู้นำเสนอความงดงามของพลอยแท้จากธรรมชาติได้อย่างลงตัว ตั้งแต่การออกแบบ คัดเลือกสีพลอย จนถึงรังสรรค์ออกมาเป็นเครื่องประดับ

DSC_5937

          ทั้งนี้ ความพิเศษของจิวเวลรี่คือ ตัวเรือนทอง 18K ที่มีให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ White gold, Yellow gold และ Pink gold รายล้อมไปด้วยเพชรธรรมชาติที่ฝังลงตัวเรือนอย่างประณีต ผ่านความบรรจงของช่างฝีมือมากประสบการณ์จาก NGG Jewellery พร้อมทั้งการสร้างกิมมิกในด้านดีไซน์ ที่ให้สวมใส่แบบ Stacking ring หรือการสวมแหวนซ้อนกันหลายๆวง กลายเป็นความมินิมอลที่อัดแน่นไปด้วยดีเทล ซึ่งสาวๆ สามารถนำมามิกซ์แอนด์แมตช์ได้อย่างสนุกสนาน

          พร้อมกันนี้ ไม่เพียงแค่เติมเต็มสีสันการแต่งตัวในแต่ละลุค แต่ยังเป็นไอเท็มที่เผยความเป็นแฟชั่นนิสต้าในแบบฉบับสาวปารีเซียงได้อย่างมีระดับ โดยทุกท่านสามารถร่วมสัมผัสความพิเศษของ  Petite E Signature คอลเลคชั่นใหม่นี้ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่ NGG Jewellery อาณาจักรเครื่องประดับ ทอง เพชร อัญมณี และนาฬิกา หรือสามารถสั่งจอง ได้ทุกสาขาทั่วประเทศไทย คือ เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลอยุธยา, เซ็นทรัลเชียงใหม่, เซ็นทรัลนครสวรรค์, เซ็นทรัลนครปฐม, เซ็นทรัลพระราม 2, เซ็นทรัลระยอง, เซ็นทรัลศรีราชา, เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ , ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต, จังซีลอนภูเก็ต , เซ็นทรัลภูเก็ต และ เทอมินอลพัทยา หรือซื้อผ่านออนไลน์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร02- 821-5983  เว็บไซต์ https://nggjewellery.com/collection/basic-line-gemstones   Facebook: Gemalyn Jewelery และ LINE OA: @Gemalyn Jewelry  ” ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ กล่าวในท้ายสุด

ปิดความเห็น บน NGG Jewellery ส่งคอลเล็กชั่นสุดพิเศษ! Petite E Signature คอลาบอเรชั่น ELLE x Gemalyn ชูจุดเด่นฝังพลอยกระเปาะตัว “E”

depa มอบสัมฤทธิบัตรแก่ผู้สำเร็จหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital CEO) รุ่นที่ 7 พร้อมเปิดเวทีโชว์วิสัยทัศน์ “ดิจิทัล ซีอีโอ”

depa มอบสัมฤทธิบัตรแก่ผู้สำเร็จหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital CEO) รุ่นที่ 7 พร้อมเปิดเวทีโชว์วิสัยทัศน์ “ดิจิทัล ซีอีโอ”

Posted on 15 มิถุนายน 2024 by writer

DSC_6778_resize

          สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) จัดพิธีมอบสัมฤทธิบัตรแก่ 92 ผู้สำเร็จหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital CEO) รุ่นที่ 7 และ กิจกรรมนำเสนอผลงานของผู้เข้าอบรมเพื่อแสดงวิสัยทัศน์การขับเคลื่อนสังคมเศรษฐกิจดิจิทัลของผู้นำยุคดิจิทัล ซึ่งผู้อบรมได้นำองค์ความรู้จากหลักสูตรฯ มาบูรณาการต่อยอดและพัฒนาองค์กร สังคม และประเทศชาติ เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศต่อไป

DSC_6375_resize_resize

          พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบสัมฤทธิบัตรพร้อมกล่าวแสดงความยินดี แก่ ผู้สำเร็จหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital CEO) รุ่นที่ 7 จำนวน 92 ราย ก่อนร่วมรับฟังการนำเสนอผลงานของผู้เข้ารับการอบรมร่วมกับคณะผู้บริหารและผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายภาคส่วน อาทิ ม.ร.ว.จัตุมงคง โสณกุล, คุณยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม, รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม , คุณธีรนันท์ ศรีหงส์ ประธานกรรมการกำกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล, พล.ท.ธงชัย รอดย้อย รองเสนาธิการทหารบก, นพ.สกานต์ บุนนาค รองอธิบดีกรมการแพทย์, ดร.ชิษณุชา บุดดาบุญ รองอธิบดีกรมการข้าว, คุณณัฐพงศ์ ดิษยบุตร รองปลัดกรุงเทพมหานคร, พญ.ลลิตยา กองคำ รองเลขาธิการ สปสช. , คุณอโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม, คุณปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี , คุณจารุพรรณ อินทรรุ่ง ผู้ช่วยเลขาธิการ กลต. , ดร.ลักขณา ลีละยุทธโยธิน กรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) , ดร. ปิยะนุช สัมฤทธิ์ นายกสมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย และ คุณวัลภา สถิรชวาล ประธานสมาพันธ์โลจิสติกส์ไทย , คุณกำพล โชคสุนทสุทธิ์ นายกสมาคมส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อการเกษตรและอุตสาหกรรม, คุณปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคม , ดร.ตุลย์ วงศ์ศุภสวัสดิ์ ผู้จัดการใหญ่ บมจ. เบอร์ลี่ยุคเกอร์ จำกัด ฯลฯ พร้อมแลกเปลี่ยนทัศนะและมอบข้อเสนอแนะให้กับผลงาน จากทั้ง 4 กลุ่ม ได้แก่ Digital Economy : ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและวิสาหกิจชุมชนด้วย Government Wallet , Digital Manpower : Digital Workforce Development Plan for Healthcare , กลุ่ม Digital Society : How to drive “Chom Thong, Chiang Mai” to be one of the Top 10 Smart Cities in the world? และ Digital Transformation : Thailand Quantum แห่งชาติ ซึ่งต่างได้รับการชื่นชมในผลงานที่จะสามารถต่อยอดไปสู่การเป็นกลไกสำคัญช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลต่อไปในอนาคต

DSC_6382_resize_resize

          พลอากาศเอก ประจิน เปิดเผยว่า การเร่งขับเคลื่อนและส่งเสริมให้ประเทศไทยมีความพร้อมและเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต่าง เร่งขับเคลื่อนและพัฒนาโครงการพื้นฐานดิจิทัล รวมถึงส่งเสริมสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเพิ่มรายได้ให้ประชาชนและยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ ควบคู่ไปกับการให้ความรู้แก่ภาคประชาชนเพื่อยกระดับการพัฒนาทักษะดิจิทัลและการเรียนรู้ในระบบดิจิทัล เรียนรู้การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ตลอดจนพัฒนาระบบเศรษฐกิจสังคมนวัตกรรมดิจิทัล รวมทั้งดึงดูดการลงทุนด้านดิจิทัล และใช้นวัตกรรมดิจิทัลเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้บริหารระดับสูงจากหลักสูตร Digital CEO จะเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศในระยะต่อไป

DSC_6964

          ด้าน ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ depa กล่าวว่า depa ความมุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยทุกภาคส่วนมีขีดความสามารถในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล ยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ รวมไปถึงการส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรม ตลอดจนสร้างโอกาสและเตรียมความพร้อมให้กับผู้บริหารภาครัฐและภาคเอกชน สามารถประยุกต์ใช้ทคโนโลยีดิจิทัลขับเคลื่อนองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญในการดำเนินการหลักสูตร Digital CEO อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 สร้างผู้นำยุคดิจิทัล รวมกว่า 600 ราย ไม่เพียงแค่สร้างผู้นำยุคดิจิทัลที่แกร่งทั้งความรู้และการก้าวทันเทคโนโลยีของผู้บริหารที่เข้าร่วมหลักสูตรเท่านั้น แต่การสร้างเครือข่ายความร่วมมือผู้บริหารรัฐและเอกชนอย่างเข็มแข็ง และพร้อมที่จะก้าวไปด้วยกันในการพัฒนาสังคมเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศต่อไป

          depa มุ่งมั่นเสริมแกร่งผู้นำดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้บริหารระดับสูง ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ที่สนใจเข้ารับการอบรมในหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital CEO) รุ่นที่ 8 สามารถติดตามกำหนดการเปิดรับสมัครได้ที่ www.depa.or.th

ปิดความเห็น บน depa มอบสัมฤทธิบัตรแก่ผู้สำเร็จหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital CEO) รุ่นที่ 7 พร้อมเปิดเวทีโชว์วิสัยทัศน์ “ดิจิทัล ซีอีโอ”

กรกฎาคม 2024
พฤ อา
« มิ.ย.    
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031  

RELATED SITES