Archive | ข่าว

NGG JEWELLERY จับมือ CHUANG ASIA SEASON 2 เจาะกลุ่มตลาดเอเชีย เปิดตัวกังหันแห่งความฝัน “Windmill Dreamers”

NGG JEWELLERY จับมือ CHUANG ASIA SEASON 2 เจาะกลุ่มตลาดเอเชีย เปิดตัวกังหันแห่งความฝัน “Windmill Dreamers”

Posted on 20 มีนาคม 2025 by writer

CHUANG ASIA_00-03_resize

           NGG JEWELLERY จับมือ CHUANG ASIA SEASON 2 เอาใจแฟนคลับชาวเอเซีย เดินหน้าขยายตลาดทั้งเมืองไทย จีน และตลาดเอเชีย เปิดตัวสินค้าใหม่  Windmill  Dreamers กังหันแห่งความฝัน ดีไซน์หรูหรา ประดับด้วยหิน Garnet สีแดงล้ำค่า สัญลักษณ์แห่งพลังและความรัก พร้อมด้วยความเคลื่อนไหวของกังหันที่เปรียบเสมือนพลังแห่งชีวิตหมุนไปสู่ความสำเร็จความเจริญรุ่งเรือง และ The Infinite Journey of Dream Jacket Cover บรรจุแผ่นทอง Gold ingot 0.1 กรัม พร้อมวางจำหน่ายแล้วทั้งหมด แบบ ที่ NGG Jewellery ทุกสาขาทั่วประเทศ รวมทั้งช่องทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม

           นางสาวปัญจรัตน์ ทรัพย์หิรัญกุล ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ บริษัท เอ็นจีจี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด หรือ“NGG JEWELLERY” อาณาจักรเครื่องประดับแท้ของขวัญจากธรรมชาติรวมศาสตร์และศิลป์แห่งเครื่องประดับ เปิดเผยว่าล่าสุดบริษัทได้จับมือกับรายการ CHUANG ASIA SEASON 2 เปิดตัวสินค้าใหม่  Windmill Dreamers  กังหันแห่งความฝัน เอาใจแฟนคลับที่ชื่นชอบรายการ ดาราศิลปิน รวมทั้งกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบสินค้าที่มีดีไซน์สวยและพิเศษไม่เหมือนใคร Windmill Dreamers  กังหันแห่งความฝัน สร้อยคอพร้อมจี้รูปกังหันหมุนได้ ประดับด้วยหิน Garnet สีแดงล้ำค่า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังและความรัก รวมถึงความเคลื่อนไหวของกังหันเปรียบเสมือนพลังแห่งชีวิตที่หมุนไปสู่ความสำเร็จ

S__19325364-3_resize

           ในเฟสแรกได้เปิดตัวกังหันพร้อมสร้อยคอจี้กังหัน Windmill Dreamers บรรจุในกล่องสวยหรูดีไซน์พิเศษเฉพาะโปรเจคนี้ โดยวางจำหน่ายเพียง  3,990 บาท เท่านั้น และ Jacket Cover แผ่นทอง  Gold ingot 0.1 กรัม ชุด The Infinite Journey of Dream  จะมีการวางจำหน่ายทั้งหมด 7  แบบ ราคา 1,390 บาท  ทั้งนี้ราคานี้ได้รวมแผ่นทอง 0.1 กรัมแล้ว

           “ความร่วมมือกับรายการ CHUANG ASIA SEASON 2 ในครั้งนี้คาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากแฟนคลับทั้งในประเทศ และต่างประเทศเนื่องจาก CHUANG ASIA เป็นหนึ่งในรายการที่ประความสำเร็จเป็นอย่างสูง เป็นรายการไอดอลเซอร์ไววัลเมกะโปรเจกต์ระดับอินเตอร์ ที่ในรอบออดิชันมีผู้สมัครเข้าร่วมรายการกว่า 9,000 คนจากทั่วโลก ในซีซั่นแรก ส่งผลให้รายการครองอันดับหนึ่งคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ของ We TV ในทุกสัปดาห์ นอกจากนี้ ยังสร้างปรากฏการณ์ต่างๆ บนโลกโซเชียลมี

S__19325364-4

           เดียทุกแพลตฟอร์มด้วยสถิติ Social Engagement ที่มากถึง 82 ล้านครั้ง จากการถูกพูดถึงผ่านแฮชแท็กต่างๆ ติดเทรนด์ทั้งในไทย และเทรนด์โลก อีกทั้งยังสร้างสถิติยอดผู้ชมรายการในทุกแพลตฟอร์มสูงถึง 2.5 พันล้านวิว ตอกย้ำการเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงความบันเทิงที่มีคุณภาพแห่งเอเชีย

           ทั้งนี้ NGG เองภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ใหญ่ในระดับเอเชีย รายการ CHUANG ASIA SEASON 2  จะเป็นคอนเทนต์ที่ช่วยสร้างการรับรู้ และขยายกลุ่มลูกค้าให้รู้จักแบรนด์ NGG JEWELLERY ครอบคลุมทั่วทั้งตลาดเอเชีย โดยหวังผลเพื่อเป็นการขยายตลาดเอเชีย ทั้งไทย จีน รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เข้ามาเที่ยวเมืองไทย ”ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ กล่าว

S__19325364-5

           นอกจากนี้ เป็นการนำกลยุทธ์การตลาดด้วยพรีเซนเตอร์ที่เป็น Influencer  ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย พร้อมทั้งกระจายช่องทางสินค้าครอบคลุม ทั้งในประเทศและตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดประเทศจีนและตลาดเอเชียอื่นๆ การร่วมมือกับ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จํากัด ซึ่งมีสื่อประชาสัมพันธ์ครอบคลุมในทุกช่องทางทั้งสื่อในประเทศ และสื่อต่างประเทศ ทำให้โอกาสเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ซึ่งหลังจากการประกาศผลรอบชนะเลิศ ก็จะมีการทำ Exclusive Collection โดยได้รับเกียรติจาก Massimo Zucchi  ดีไซเนอร์ที่มีประสบการณ์ด้านการออกแบบกับแบรนด์ระดับโลก มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานกับผู้ชนะเลิศทั้ง 7 คน ซึ่งสินค้าทุกชิ้นจะใช้พลอยธรรมชาติ สีต่างๆ มาเป็นองค์ประกอบอีกด้วย

           ท่านสามารถร่วมสัมผัสความพิเศษของสินค้าใหม่  Windmill Dreamers  กังหันแห่งความฝัน และ Jacket Cover แผ่นทอง  Gold ingot 0.1 กรัม ชุด The Infinite Journey of Dream ได้แล้วที่ NGG Jewellery อาณาจักรเครื่องประดับ ทอง เพชร อัญมณี และนาฬิกา ทุกสาขาทั่วประเทศไทย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป  หรือสามารถสั่งซื้อ และสอบถามเพิ่มเติมได้ผ่านช่องทาง LINE OA: @NGG Jewellery และ www.nggjewellery.com

Comments (0)

เปิดประสบการณ์ก้าวแรกซัมเมอร์ที่นิวซีแลนด์ พัฒนาภาษา ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย พร้อมมอบทุนกลับไปเรียนระยะยาว

เปิดประสบการณ์ก้าวแรกซัมเมอร์ที่นิวซีแลนด์ พัฒนาภาษา ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย พร้อมมอบทุนกลับไปเรียนระยะยาว

Posted on 19 มีนาคม 2025 by writer

sweetlife-214_resize

           ในยุคที่ภาษาอังกฤษเป็นกุญแจสำคัญสู่โอกาสทางการศึกษาและอาชีพ การพัฒนาทักษะผ่านประสบการณ์จริงนอกห้องเรียนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง การส่งบุตรหลานไปเรียนซัมเมอร์ที่ต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก เช่น นิวซีแลนด์ จึงกลายเป็นทางเลือกยอดนิยมของผู้ปกครองที่ต้องการส่งเสริมทักษะทางภาษาและการใช้ชีวิตให้กับบุตรหลาน เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยพัฒนาภาษาอังกฤษอย่างก้าวกระโดด แต่ยังช่วยพัฒนาทักษะการปรับตัวแก้ปัญหา การใช้ชีวิต ความสามารถในการพึ่งพาตนเอง และการเปิดรับวัฒนธรรมใหม่ๆ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในโลกยุคปัจจุบัน

           เมื่อเร็วๆนี้ หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) สถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย ร่วมกับ เคทีซี และตัวแทนแนะแนวการศึกษาต่อประเทศนิวซีแลนด์ จัดงาน New Zealand Summer Pre-Departure Orientation “โครงการเรียนภาษาระยะสั้นที่นิวซีแลนด์ 2025” เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนไทยที่กำลังจะเดินทางไปเรียนซัมเมอร์ที่นิวซีแลนด์ (มีนาคม-พฤษภาคม 2568) ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ชีวิต ระบบการศึกษา กฎระเบียบที่ต้องรู้ และเคล็ดลับการปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมใหม่ โดยมี ฯพณฯ นายโจนาธาน คิงส์ เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นางสาวจารุวรรณ พงษ์จารุวัฒน์ ผู้อำนวยการด้านการศึกษา จากหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ และนางประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุดสายงานการตลาดบัตรเครดิต เคทีซี ให้การต้อนรับ โดยมีนักเรียนและผู้ปกครองเข้าร่วมกว่า 240 คน  ณ เคทีซี ชั้น 11 อาคารสมัชชาวาณิช 2

ผู้ร่วมงานคับคั่ง_resize

นิวซีแลนด์จุดหมายการศึกษาอันดับต้นๆ ของโลก

           ฯพณฯ นายโจนาธาน คิงส์ เปิดเผยว่า นิวซีแลนด์ได้รับการยอมรับว่ามีระบบการศึกษาคุณภาพสูงและเป็นประเทศอันดับหนึ่งในการพัฒนาทักษะนักเรียนให้พร้อมสู่อนาคตในกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ด้วยสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและวัฒนธรรมที่เป็นมิตรต่อนักเรียนต่างชาติ นักเรียนไทยจะสามารถปรับตัวและเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากการเรียนในห้อง นักเรียนยังได้ฝึกฝนภาษาอังกฤษผ่านการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารกับโฮสต์แฟมิลี่ การทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนต่างชาติ หรือการเข้าร่วมทัศนศึกษา ทั้งนี้หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ยังมีโครงการทุนตั๋วเครื่องบินสำหรับนักเรียนที่ไปเรียนซัมเมอร์ระยะสั้น หากกลับไปเรียนต่อนิวซีแลนด์ตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป โรงเรียนและมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการมอบทุนมูลค่าเท่าตั๋วเครื่องบินมูลค่าสูงสุด $3,000

           ปัจจุบันนิวซีแลนด์ยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาต่างชาติทำงานต่อได้สูงสุดถึง 3 ปีหลังเรียนจบ ทำให้เป็นจุดหมายการศึกษาที่สำคัญของนักเรียนจากทั่วโลก

เสียงผู้ปกครองเลือกนิวซีแลนด์  สภาพแวดล้อมดี มีความปลอดภัย

           ผู้ปกครองที่เข้าร่วมงานแสดงความเห็นถึงเหตุผลที่เลือกส่งบุตรหลานไปเรียนซัมเมอร์ที่นิวซีแลนด์ โดยเน้นเรื่องความปลอดภัย สภาพแวดล้อมที่เหมาะต่อการเรียนรู้ และโอกาสในการพัฒนาภาษาอังกฤษผ่านประสบการณ์จริง

ผู้ปกครองและน้องๆ ที่มาร่วมงาน_resize

           พ.อ.หญิง รศ.พญ. นวพร นำเบญจพล กุมารแพทย์ คุณแม่ของน้องแมทธิว (ปิยะวิทย์ นำเบญจพล) อายุ 12 ปี โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย กล่าวว่า เคยส่งพี่ชายน้องแมทธิวไปเรียนซัมเมอร์ที่นิวซีแลนด์มาก่อน และเห็นพัฒนาการด้านภาษาอังกฤษชัดเจน จึงอยากให้น้องแมทธิวได้ไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ฝึกพูดภาษาอังกฤษ และเพิ่มความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น ส่วนเหตุผลที่เลือกประเทศนิวซีแลนด์เพราะมองว่านิวซีแลนด์เป็นประเทศที่ปลอดภัย บรรยากาศและสภาพแวดล้อมดี มีความหลากหลายของเชื้อชาติ ผู้คนดูเป็นมิตรสูง

           น้องเซียร่า (กฤตพร วรเวทวุฒิคุณ) อายุ 14 ปี โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ กล่าวว่า อยากได้ประสบการณ์ใหม่ๆที่ประเทศนิวซีแลนด์ เพื่อพัฒนาภาษาอังกฤษ การใช้ชีวิต ได้เรียนรู้วีถีและวัฒนธรรมของชาวกีวี่ และที่สำคัญได้พบเพื่อนต่างชาติมากมาย  ด้าน คุณแม่ สิริพร เตโชปถัมภ์ เสริมว่า เลือกนิวซีแลนด์เพราะ เป็นประเทศที่น่ารักมีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติ และต้อนรับนักเรียนและนักเดินทางอย่างอบอุ่น  อยากให้น้องเซียร่าได้ไปเรียนรู้ได้รับประสบการณ์ที่ดี และสามารถเอาความรู้ แนวคิดมาต่อยอดกับการใช้ชีวิต และการเรียนรู้ในอนาคต ทำให้รู้จักตนเอง ใช้ชีวิตในต่างแดน ใช้เวลาในการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่มีค่า โดยมี Host ที่ได้รับการรับรองฯดูแล และที่สำคัญลูกจะมี buddy ต่างแดน คิดปรึกษา ซัพพอร์ทกันในอนาคต ที่ชอบอีกอย่างคือลูกจะมีกิจกรรมให้ห่างจากมือถือบ้าง นับเป็นการพัฒนาที่ดีค่ะ

           คุณแม่คณิศรา นิ่มสมบุญ  คุณแม่ของน้องลูกไม้ (จุฑิสรา ลิ่มกังวาฬมงคล) อายุ 14 ปี โรงเรียนมา แตร์เดอี กล่าวว่า  ตัวเองเคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่นิวซีแลนด์ 1 ปี ได้เรียนรู้การรับผิดชอบตัวเอง และวัฒนธรรมต่างๆของชาวกีวี่ เลยอยากให้ลูกได้รับประสบการณ์ที่ดีในการไปเรียนต่อต่างประเทศที่มีความปลอดภัย ส่วนน้องลูกไม้ บอกว่า “รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับประเทศที่ไม่เคยไปมาก่อน พร้อมที่จะเรียนรู้และปรับตัวกับครอบครัวโฮสต์ชาวนิวซีแลนด์ค่ะ และอยากไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆอยากเรียนรู้วัฒนธรรม  อยากลองทำ Haka แบบชาวเมารีค่ะ”

เอเจ้นท์-1_resize

           คุณแม่โชติมา โชคคณาพิทักษ์ คุณแม่ของน้องโดนัท (พัณณ์ชิตา  โชคคณาพิทักษ์)  อายุ 17 ปี โรงเรียนเขมะสิริอนุสรณ์ กล่าวว่า เลือกนิวซีแลนด์เพราะเป็นประเทศที่มีอากาศดี ผู้คนเป็นมิตร วัฒนธรรมอบอุ่น การเดินทางง่าย มีค่าครองชีพที่เหมาะสม  ด้านน้องโดนัท กล่าวเสริมว่า อยากไปเรียนรู้การศึกษาต่างประเทศ อยากเจอประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อนใหม่ๆ ลองใช้ชีวิตด้วยตนเอง และฝึกความกล้าแสดงออกในการพูดภาษาอังกฤษค่ะ

           คุณแม่ปัทมา กิจสวัสดิ์ คุณแม่น้องมินนี่ (นภัส พงศ์พิพัฒนาการ) อายุ 14 ปี โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย กล่าวว่า เลือกส่งน้องมินนี่ไปเรียนซัมเมอร์ที่นิวซีแลนด์เพราะคำนึงถึงความปลอดภัย ซึ่งนิวซีแลนด์ถือว่าเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยอันดับต้นๆของโลก และอยากให้ลูกได้พบเจอประสบการณ์ที่ท้าทายใหม่ๆ ด้านน้องมินนี่ กล่าวเสริมว่า รู้สึกตื่นเต้นและท้าทายกับประสบการณ์ใหม่ๆ การพบเพื่อนใหม่และกิจกรรมที่ต้องใช้ความกล้าและความคิดสร้างสรรค์ “หนูรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้พบเพื่อนใหม่และใช้ชีวิตในสถานที่ใหม่ พร้อมทั้งมีความสนใจในการทำกิจกรรมที่ท้าทายและผจญภัยค่ะ”

           สำหรับผู้ปกครองและผู้สนใจศึกษาต่อที่ประเทศนิวซีแลนด์ ที่เป็นสมาชิกบัตรเคทีซี สามารถรับสิทธิพิเศษในรูปแบบคะแนน KTC FOREVER X 4 เมื่อชำระค่าเล่าเรียนภาษาอังกฤษผ่านบัตรเครดิตเคทีซีกับพันธมิตรที่ร่วมโครงการฯ ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2568 – 30 เมษายน 2568 และรับทุนตั๋วเครื่องบินฟรีสำหรับนักเรียนที่ผ่านหลักสูตรระยะสั้น “ซัมเมอร์คอร์ส” และต้องการกลับไปศึกษาต่อที่ประเทศนิวซีแลนด์ในหลักสูตรระยะยาว ระดับมัธยมศึกษา หรืออุดมศึกษา เพียงแสดงหลักฐานการเรียนที่ผ่านมาผ่านทางตัวแทนแนะแนวการศึกษา และสามารถจองตั๋วการเดินทางได้ที่ศูนย์บริการท่องเที่ยว KTC World Travel Service

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการทุนตั๋วเครื่องบินดูได้ที่ www.learnenglishnewzealand.com/Freeticketforstudyinnewzealand และภาพรวมการศึกษานิวซีแลนด์ ดูได้ที่ www.studywithnewzealand.govt.nz

Comments (0)

ชลิต อินดัสทรีฯ ร่วมสร้างโอกาสทางการศึกษาผู้พิการ มอบทุนและเลี้ยงอาหารกลางวัน เติมน้ำใจให้น้องตาบอด

ชลิต อินดัสทรีฯ ร่วมสร้างโอกาสทางการศึกษาผู้พิการ มอบทุนและเลี้ยงอาหารกลางวัน เติมน้ำใจให้น้องตาบอด

Posted on 18 มีนาคม 2025 by writer

1- ชลิต อินดัสทรี ปันน้ำใจให้น้องตาบอด_resize

          บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยาง ภายใต้แบรนด์ “POP” ได้จัดโครงการเพื่อสังคม “ชลิต อิดัสทรีฯ เติมน้ำใจให้น้องตาบอด” เพื่อร่วมสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับนักเรียนผู้พิการทางสายตา โดยมอบทุนการศึกษา พร้อมเลี้ยงอาหารกลางวันและมอบสิ่งของจำเป็นให้แก่น้องๆ โรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยา ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

สิทธิขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ คือการมีโอกาสดำรงชีวิตในมาตรฐานที่ดีของสังคม อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มคนบางกลุ่มที่เผชิญกับข้อจำกัดโดยธรรมชาติ เช่น ผู้พิการ ซึ่งรวมถึงผู้พิการตาบอด แม้ว่าพวกเขาจะมองไม่เห็น แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาต้องการเป็นภาระของสังคม หากได้รับโอกาสที่เหมาะสม โดยเฉพาะทางการศึกษา ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างอาชีพและพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ปัจจุบัน ยังมีผู้พิการตาบอดอีกจำนวนมากที่ขาดโอกาสทางการศึกษา โรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยา ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้ก่อตั้งขึ้นเพื่อมอบโอกาสทางการศึกษาให้แก่ผู้พิการทางสายตา  การฟื้นฟูสมรรถภาพ การฝึกอาชีพ รวมถึงพัฒนาทักษะด้านดนตรี กีฬา และทักษะต่างๆ เพื่อให้ผู้พิการทางสายตาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณค่าและเป็นส่วนหนึ่งของสังคมอย่างเท่าเทียม

3-ชลิต อินดัสทรี ปันน้ำใจให้น้องตาบอด_resize

เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่ผู้พิการตาบอด บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยาง ภายใต้แบรนด์ “POP” ได้จัดกิจกรรมเพื่อสังคม ภายใต้ชื่อ โครงการ “ชลิต อิดัสทรีฯ เติมน้ำใจให้น้องตาบอด”  เพื่อร่วมสร้างโอกาสทางการศึกษาและร่วมเติมน้ำใจให้กับนักเรียนผู้พิการตาบอด โดยมอบทุนการศึกษา พร้อมเลี้ยงอาหารกลางวันและมอบสิ่งของจำเป็นให้แก่น้องๆ โรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยา ในพระราชูปถัมภ์ฯ โดยมี นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด และ นางสุชญา ยงเห็นเจริญ รองประธานกรรมการ เป็นผู้แทนมอบเงินสมทบทุนการศึกษา อาหารกลางวัน และสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและการศึกษาของนักเรียนผู้พิการทางสายตา ณ โรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยา ในพระราชูปถัมภ์ฯ เมื่อเร็วๆ นี้

5-ชลิต อินดัสทรี ปันน้ำใจให้น้องตาบอด_resize

นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กล่าวว่า โครงการ “ชลิต อินดัสทรีฯ เติมน้ำใจให้น้องตาบอด” เป็นกิจกรรมเพื่อสังคมที่บริษัทฯ ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความเชื่อมั่นว่าโอกาสทางการศึกษาจะช่วยให้นักเรียนผู้พิการตาบอด สามารถพัฒนาศักยภาพของตนเอง และสามารถสร้างอาชีพเพื่อพึ่งพาตนเองและช่วยเหลือครอบครัวได้อย่างยั่งยืน

โรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยาในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2529 เป็นองค์กรการกุศล เพื่อให้โอกาสทางการศึกษาแก่ผู้พิการทางสายตา ซึ่งจัดการศึกษาและฟื้นฟูพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับนักเรียนตาบอดและตาบอดพิการซ้อน ตั้งแต่ ระดับอนุบาลถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น นอกจากนี้ยังได้ขยายโอกาสทางการศึกษาโดยการจัดการศึกษานอกระบบ และมีโครงการเรียนรวมในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย  โดยให้บริการทั้งด้านการศึกษา การฟื้นฟูสมรรถภาพ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียนผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การฝึกอาชีพ ดนตรี กีฬา งานนวดและงานฝีมือ รวมถึงฝึกทักษะการใช้ชีวิตสำหรับคนตาบอด  เช่น การปฏิบัติกิจวัตรในชีวิตประจำวัน การเคลื่อนไหวและการเดินทาง การอ่าน การเขียนอักษรเบรลล์ นันทนาการ  ตลอดจนการส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ในสังคมเพื่อสร้างความภาคภูมิใจและความรู้สึกเป็นสมาชิกของสังคม โดยนักเรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ

2-ชลิต อินดัสทรี ปันน้ำใจให้น้องตาบอด_resize

ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคช่วยเหลือให้น้องๆเหล่านี้ให้ได้รับการศึกษา ฟื้นฟูสมรรถภาพ และฝึกอาชีพ “พร้อมช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นได้” สามารถบริจาคเงินได้ที่ SCB เลขที่ 669-2-10787-4 สาขาพัทยาสาย 2 ชื่อ บ/ช ทุนบรมราชกุมารีเพื่อคนตาบอด (2536) หรืออาหารและสิ่งของจำเป็นต่างๆ ได้ที่ โทรศัพท์ 038-225-479 และ 081-359-0788 หรือ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ auapattayablind@gmail.com หรือเว็บไซต์ www.prsb.ac.th

Comments (0)

NER พบนักวิเคราะห์และนักลงทุนสรุปผลประกอบการ ประจำปี 2567

NER พบนักวิเคราะห์และนักลงทุนสรุปผลประกอบการ ประจำปี 2567

Posted on 13 มีนาคม 2025 by writer

ภาพสังคม พบนักลงทุนวิเคราะห์ ok_resize

               นายชูวิทย์  จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยนายศักดิ์ชัย จงสถาพงษ์ พันธ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบัญชี – การเงิน นางสาวเกศนรี จองโชติศิริกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการตลาด/ควบคุมคุณภาพ และนางสาวปาร์ย อรรถพิสาล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์  จำกัด (มหาชน)  หรือ NER ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆ และกลุ่มผู้ค้าคนกลางทั้งในประเทศและต่างประเทศ พบนักวิเคราะห์และนักลงทุน สรุปผลประกอบการประจำปี 2567 พร้อมแผนธุรกิจปี2568  ณ โรงแรม อีสติน แกรนด์ สาทร เมื่อเร็วๆ นี้

Comments (0)

NER ร่วมงาน VIV ASIA 2025 (วิฟ เอเชีย 2025)

NER ร่วมงาน VIV ASIA 2025 (วิฟ เอเชีย 2025)

Posted on 11 มีนาคม 2025 by writer

S__19218889_resize

          นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน)  หรือ NER  ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่าย ยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม รวมทั้งธุรกิจแผ่นปูพื้น (Rubberflex) ขอเชิญชวนผู้ประกอบการและผู้สนใจร่วมพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ ด้านแผ่นปูพื้นยางพารา สำหรับปศุสัตว์ แลกเปลี่ยนไอเดียและต่อยอดธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ในธุรกิจคุณและอัปเดทเทรนด์ร่วมสัมผัสนวัตกรรมใหม่ๆของอุตสาหกรรม สำหรับปศุสัตว์ แบบยกระดับธุรกิจสู่มาตรฐานสากล ในงาน VIV ASIA 2025  เป็นงานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมปศุสัตว์ครบทุกมิติ อาทิ ปศุสัตว์ – อาหาร – การเกษตร โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 มีนาคม 2568 เวลา 10.00 – 18.00 น. ฮอลล์ 1 บูธ 1-2499  ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี

          และติดตามข่าวสารและชมสินค้า RubberFlex ที่เว็บไซต์ www.rubberflexthailand.com หรือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ : @ner_cattleflex

Comments (0)

6 โบรกมั่นใจ “NER” แนวโน้มโตตามเป้า

6 โบรกมั่นใจ “NER” แนวโน้มโตตามเป้า

Posted on 05 มีนาคม 2025 by writer

NER_resize

DAOL SECURITIES (THAILAND) PUBLID COMPANY LIMITED

4Q24 ฟื้น QoQ ตามคาดจาก high season และปริมาณวัตถุดิบมากขึ้น

เราคงคำแนะนำ “ถือ” และราคาเป้าหมาย 5.50 บาท อิง 2025E PER 6x (5-yr average) NER รายงาน กำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 359 ล้านบาท (-22% YoY, -0.4% QoQ) ขณะที่กำไรปกติ (ไม่รวมขาดทุน Fx) อยู่ที่ 484 ล้านบาท (+13% YoY, +119% QoQ) ใกล้เคียงตลาดและเราคาด กำไรปกติขยายตัว YoY หนุน โดยราคาขายสูงขึ้น +27% YoY ตามทิศทางราคายางในตลาด และ SG&A ปรับตัวลงตามสัดส่วนการ ส่งออก แต่ปัจจัยเหล่านี้ถูก offset บางส่วนจาก GPM ลดลง -250bps เป็นผลจากต้นทุนยางสูงขึ้น ซึ่ง บริษัทบันทึกโดยวิธีถัวเฉลี่ย ขณะที่กำไรปกติฟื้นตัวสูง QoQ หนุนโดยปริมาณขายขยายตัว +39% QoQ จาก high season และสถานการณ์วัตถุดิบและภัยแล้งทยอยคลี่คลาย

เราคงกำไรปกติปี 2025E ที่ 1.7 พันล้านบาท (+4% YoY) สาหรับ 1Q25E เบื้องต้นคาดการณ์กำ ไร ปกติมีแนวโน้มชะลอ YoY, QoQ จาก GPM ลดลงจากฐานสูงใน 1Q24 และปริมาณขายปรับตัวลง หลังผ่าน high season ราคาหุ้น outperform SET +10%/+16% ใน 1/3 เดือน โดยระยะสั้นราคาหุ้นมีโอกาสได้ sentiment บวกหลังประกาศจ่ายปันผล 2H24 ที่ 0.31 บาท/หุ้น คิดเป็น dividend yield สูงที่ 6% กำหนดขึ้น XD 24 เม.ย. ทั้งนี้เราแนะนำ “ถือ” จาก 1) ผลการดาเนินงาน 1Q25E มีโอกาสกลับมาชะลอตัว, 2) การ ขยายกาลังการผลิตจากโรงงานใหม่ในโกตดิวัวร์และไทย คาดเริ่มดาเนินการผลิตได้เร็วสุดในปี 2026E, และ 3) มีปัจจัยท้าทายจากนโยบายของสหรัฐฯ เช่น การยกเลิกส่งเสริมผลิตยานยนต์ไฟฟ้า การขึ้น ภาษีนำเข้ายานยนต์ เป็นต้น

 

Krungthai XSpring

อัตรากำไร 4Q24 ฟื้นช้า แต่เป็นปัจจัยชั่วคราว

KTX ปรับคำแนะนำลงเป็น Neutral จากเดิม Outperform ตามการปรับขึ้นของราคาหุ้นเข้ามาใกล้มูลค่าเหมาะสมปี 2025E ของเราที่ 5.38 บาท อิงอัตราผลตอบแทนที่คาดหวัง 20.7% สะท้อน PER เป้าหมาย
ที่ 4.8 เท่า Valuation Metrics บ่งชี้ว่าราคาหุ้นปัจจุบันยังค่ากว่ามูลค่าพื้นฐาน ขณะที่การเติบโตของ
กำไรมีความสม่ำเสมอและมุมมองเชิงเทคนิคอยู่ในระดับปานกลางอัตรากำไรขั้นต้นที่ฟื้นตัวช้าได้รับแรงกดดันจากการปรับขึ้นของราคาวัตถุดิบ ซึ่งน่าจะค่อย ๆ คลี่คลายตามการปรับราคาขาย

 

บล.กรุงศรี

กำไรปกติ4 Q24 โตสูง q-q รายได้ New High ตามคาด

เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” TP 5.85 บาท อัตราปันผลสูง 6.1% โดยกำไรปกติ 4Q24 ใกล้เคียงคาดอยู่ที่ 484 ลบ. (+13%y-y, +119%q-q) ปัจจัยหนุนจากรายได้และราคาขายทำสูงสุดใหม่ ปริมาณการขายดีที่สุดในรอบ 8 ไตรมาส อีกทั้ง SG&A/sales ลดลงเพราะสัดส่วนการขายในประเทศเพิ่มขึ้น สำหรับโมเมนตั้ม 1Q25F คาดกำไรปกติลดลง y-y, q-q เพราะต้นทุนราคายางเพิ่ม ประกอบกับปัจจัยฤดกาลที่เขาช่วงปิดกรีดปลาย ก.พ. ถึง พ.ค. จึงมองว่า 2H25F จะดีกว่าครึ่งแรกและดีที่สุดใน 4Q25F คงประมาณการกำไรปกติ 2025F ที่ 2,024 ลบ. (+21%yy) โดยเราชอบ NER ที่สุดในหุ้นกลุ่มยางฯ จาก Operating margin สูง 7-10% ทนความผันผวนของ GPM จากต้นทุนยางเปลี่ยนแปลงได้ดีกว่า STA

รายได้และราคาขาย 4Q24 เป็น New high ปริมาณการขายดีที่สุดในรอบ 8 ไตรมาส   NER รายงานกำไรปกติ 4Q24 ที่ 484 ลบ. (+13%y-y, +119%q-q) ใกล้เคียงคาด ปัจจัยหนุนจาก i) รายได้ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 8,934 ลบ. (+35%y-y, +45%q-q) จากปริมาณการขายอยู่ที่ 1.36 แสนตัน สูงที่สุดในรอบ 8 ไตรมาส  เพิ่มขึ้น +7%y-y, +39%q-q ราคาขายที่ 66 บ./กก. ทำจุดสูงสุดใหม่เพิ่มขึ้น +27%y-y, +4%q-q  ii) SG&A/sales ลดลงเหลือ 1.8% (vs 4Q23: 2.8%, 3Q24: 2.9%) เพราะค่าใช้จ่ายการขายในประเทศต่ำกว่าการส่งออกที่มีค่าขนส่งและค่าเซสลดลง (ภาษีส่งออก) โดยรายได้จากการขายในประเทศเติบโตสูง +52%y-y, +50%q-q สัดส่วนรายได้จากการขายในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 73% (vs 4Q23: 65%, 3Q24: 71%) ประกอบกับการเติบโตของรายได้มีอัตราเร่งสูงกว่าค่าใช้จ่าย ทั้งนี้มี FX loss และ hedging loss รวม -125 ลบ. จึงมีกำไรสุทธิที่ 359 ลบ. (-22%y-y ทรงตัว q-q)

โมเมนตั้มกำไรปกติ 1Q25F ลดลง y-y, q-q  เบื้องต้นเราคาดแนวโน้มกำไรปกติ 1Q25F ลดลง y-y, q-q คาดลดลง y-y จากราคาต้นทุนวัตถุดิบ เพิ่มขึ้นในอัตราเร่งกดดัน GPM และดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มจากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ช่วงปลายเดือน ธ.ค. 24 คาดกำไรปกติลดลง q-q จากปริมาณการขายลดลงจากปัจจัยฤดูกาล คงประมาณการกำไรปกติปี 2025F ที่ 2,024 ลบ. (+21%y-y) จากแนวโน้มปริมารณการขายเพิ่มขึ้น บริษัทตั้งเป้าที่ 5 แสนตัน/ปี โดยเรามองว่า 2H25F จะดีกว่าครึ่งแรกเนื่องจาก Q2 เป็นช่วงปิดกรีดยาง

เราคงแนะนำ “ซื้อ” TP25F ที่ 5.85 บ. อิง PER 6.4 เท่า แนวโน้มปริมาณการขายและทิศทางราคายาง

เพิ่มขึ้น มองเป็นหุ้นปันผลสูง ณ ราคาปัจจุบัน คิดเป็น dividend yield  6.1% XD 24 เม.ย. 25

 

บล. หยวนต้า

กำไรปกติดีกว่าคาดเล็กน้อย  

NER รายงานกำไรปกติ 4Q24 ที่ 484 ลบ. (+118.8% QoQ, +12.7 YoY) ดีกว่าที่เราคาด 4% โดยกำไรสุทธิอยู่ที่ 359 ลบ. เนื่องจากมีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 12 ลบ. และขาดทุนจากอนุพันธ์ 113 ลบ.  กำไรปกติที่ดีกว่าคาดเล็กน้อยมาจากรายได้ที่ดีกว่าคาดจากปริมาณขายอยู่ที่ 1.36 แสนตัน (คาด 1.30 แสนตัน) และ ASP อยู่ที่ 65.6 บาท/กก. (คาด 65.0 บาท/กก.) เพิ่มขึ้น 4.4% QoQ และ 26.8% YoY รายได้อยู่ที่ 8,934 ลบ. (+45.0% QoQ, +35.3% YoY) ดีกว่าคาด 6% แต่ GPM ต่ำกว่าคาดเล็กน้อยอยู่ที่ 8.8% (คาด 9.0%) SG&A/Sales อยู่เพียง 1.8% ลดลงจาก 2.9% ใน 3Q24 และ 2.8% ใน 4Q23 เพราะรายได้สูงขึ้นมาก และ ดีกว่าที่คาดไว้ที่ 2.2% แต่ดอกเบี้ยจ่ายสูงกว่าคาด 12%

กำไรสุทธิทั้งปี 2024 อยู่ที่ 1,652 ลบ. และกำไรปกติอยู่ที่ 1,673 ลบ. (+5.7% YoY) ประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 2H24 อีก 0.31 บาท ให้ผลตอบแทน 6.1% ขึ้น XD วันที่ 24 เม.ย.

เราคาดกำไร 1Q25 ทรงตัวถึงลดลงเล็กน้อยทั้ง QoQ และ YoY จากปริมาณขายลดลง QoQ แต่ราคาขายทรงตัวถึงเพิ่มขึ้น QoQ แต่ด้วยราคายางที่เพิ่มขึ้นเร็วใน 1Q25 ทำให้ต้นทุน เฉลี่ยอาจสูงขึ้นตาม ทำให้ GPM อาจทำได้เพียงทรงตัวที่ 9%+/- ส่วน YoY คาดปริมาณขายทรงตัว แต่ ASP เพิ่มขึ้นราว 15% YoY แต่ GPM ลดลงจากฐานที่สูง 1Q24 ทำไว้ที่ 11.6%

คงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 6.45 บาท ปัจจุบันซื้อขายที่ PER68 ต่ำเพียง 5.7 เท่า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉพาะ 2H24 สูงถึง 6.1% และคาดปี 2025 ทั้งปีอีก 0.36 บาท/หุ้น ให้ผลตอบแทนอีก 7.2% คงคำแนะนำซื้อ

 

บล. ตรีนิตี้ 

NER รายงานกำไร 4Q24 ที่ 359 ล้านบาท

แนวโน้ม 2025 ราคายังยืนแข็งแกร่ง ปรับกลยุทธ์การขายรับ ประโยชน์ราคาขาขี้น

เราให้คำแนะนำ Trading Buy และราคาเป้าหมาย 5.15 บาท อิง PER ที่ 5.1 เท่า NER ยังคงเป็นหุ้นที่ให้ปันผลดี 0.31 บาท Dividend Yield 6% นอกจากนี้ PBV ยังอยู่ระดับ 1.1 เท่า ROE 20% นอกจากนี้จะยังมี growth จากการขยายกำลังผลิตในอีก 2 ปีข้างหน้า

NER รายงานกำไรใน 4024 ที่ 359 ล้านบาท -22% YoY, -0.4% QoQ ต่ำกว่าที่ตลาด คาดส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก Fx Loss ราว 125 ล้านบาท ซึ่งถ้าไม่รวมรายการดังกล่าว กำไรปกติจะอยู่ที่ 484 ล้านบาท +13% YoY, +118% QoQ ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้

เราคาดกำไรปี 2025 ที่ 1.8 พันล้านบาท +11% YoY ผู้บริหารยังมีความมั่นใจที่ยอดขาย 5 แสนตัน โดยจะมีลูกค้าใหม่ๆ จากอินเดียที่จะทยอยเริ่มคำสั่งซื้อใน 2H25 และยังคงแผนการเพิ่มกำลังการผลิตจาก 5.1 แสนตัน เป็น 8.3 แสนตัน ในปี 2027 โดย Phase 1 คาดว่าจะเริ่มการสร้างโรงงานแห่งใหม่ภายใน 2H25  และคาดว่าจะแล้วเสร็จใน 1H26 ซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิตในปี 2026 ประมาณ 30% โดยปัจจุบันบริษัทได้มีการพูดคุย กับลูกค้าใหม่ๆ เป็นที่เรียบร้อยเพื่อรองรับการเพิ่มกำลังการผลิต โดยเป็นลูกค้าอินเดียรายใหญ่ ซึ่งอินเดียเองยังมีความต้องการยางค่อนข้างมาก และจากอินโดนีเซียที่มีปัญหาต้นยางตาย ลูกค้าจึงหาแหล่งยางที่มีความมั่นคง

นอกจากนี้บริษัท ยังมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการขายสินค้าใหม่จากเดิมที่ขายล่วงหน้า 100% ลดลงเป็น 85% โดยส่วน 15% ที่ลดการขายล่วงหน้าลงจากแนวโน้มของราคายางที่เป็นขาขึ้น จะทําให้ บริษัทได้ Margin มากขึ้น  อย่างไรก็ตาม ก็อาจมีความเสี่ยงด้านความผันผวนของราคายาง และปริมาณขายรถยนต์

 

Innovest X

กลยุทธ์การลงทุน

ㆍ แม้ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside จำกัดจากราคาเป้าหมายปี 2568 ที่หุ้นละ 5.00 บาท (EPS อิงจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นจากใช้สิทธิแปลงสภาพ NER-W2 ซึ่งมี 308 ล้านหน่วย และกำหนดให้ใช้สิทธิเท่ากัน 3 ครั้งในเวลาที่เหลือ 1.5 ปี พร้อมอิงค่าเฉลี่ย PER ที่ 6.0 เท่าเช่นเดิม) และมีความเสี่ยงต้องติดตามจากนโยบายเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐซึ่งอาจกระทบต่ออุปสงค์ยาง แต่อย่างไรก็ดี NER ยังมีจุดเด่นที่จ่ายเงินปันผลสูง โดยล่าสุดประกาศจ่ายเงินปันผลจ่ายจากกำไรปี 2H67 หุ้นละ 0.31 บาท (XD 24 เม.ย.) คิดเป็น Div. Yield 6.1% กลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำ “Neutral” เพื่อรับเงินปันผล

ㆍบริษัทมีกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจและตั้งเป้าหมายการเติบโตในปี 2568 หลัง 4Q67 NER มีกำไรสุทธิ 359 ลบ. แต่ไม่รวมรายการพิเศษสุทธิที่บันทึกใน 4Q67 ราว -125 ลบ. จะมีกำไรปกติ 484 ลบ. เพิ่มขึ้น 12.7%YoY ใกล้เคียงตลาดคาด โดยมีแรงหนุนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น 35.3%YoY เนื่องจากมีปริมาณขายยาง 1.36 แสนตัน เพิ่มขึ้น 7%YoY และราคาขายยางเฉลี่ยอยู่ที่ 65.65 บาท ต่อกก. เพิ่มขึ้น 27%YoY อย่างไรก็ดี การเพิ่มขึ้นของยอดขายถูกหักล้างด้วยอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงเหลือ 8.8% จาก 11.3% ใน 4Q66 หลังมีต้นทุนยางเฉลี่ยสูงขึ้นตามทิศทางราคายางที่ปรับขึ้นแรง ส่งผลให้ปี 2567 NER มีกำไรสุทธิ 1,652 ลบ. เติบโต 6.9%YoY แต่หากไม่รวมรายการพิเศษพบว่ามีกำไรปกติ 1.673 ลบ. เติบโต 5.7%YoY ใกล้เคียงกับที่เราคาดการณ์

ㆍปี 2568 NER ตั้งเป้ามียอดขายราว 3.45 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้น 26%YoY ปัจจัยหนุนจากคาดมีปริมาณขายยางที่

5 แสนตัน (+14%YoY) หลังมองลูกค้าเดิมยังมีดีมานด์ยางที่เติบโตดีและมีการขยายลูกค้าใหม่ในกลุ่มอินเดียเพิ่มเติม ส่วนราคาขายยางเฉลี่ยราว 70-72 บาทต่อกก. ทั้งนี้บริษัทมองว่าอุปทานยางโลกจะทรงตัว โดยอุปทานยางในอินโดนีเซียที่ลดลงจะถูกชดเชยจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นขึ้นในโกตดิวัวร์ ส่วนอุปทานไทยปี 68 คาดเพิ่มขึ้น 20% หลังปริมาณฝนที่ดีขึ้นทำให้กรีดยางได้เร็วขึ้น

ㆍ โรงงานใหม่แห่งที่ 3 ในไทย (กำลังผลิต 3.2 แสนตัน) จะเริ่มสร้างกลางปีนี้และจะเปิดเฟสแรกได้ในกลางปี 69 ซึ่งจะมีกำลังผลิต 1.6 แสนตัน ส่วนเฟสสองจะเปิดในปี 70 ซึ่งจะมีกำลังผลิตเพิ่มอีก 1.6 แสนตัน ทำให้กำลังผลิตจากปัจจุบัน 5:165 แสนตัน จะเพิ่มเป็น 8.356 แสนตันในปี 70 สามารถรองรับดีมานด์ที่จะเพิ่มขึ้นได้ ทั้งนี้บริษัทมีแผนกู้เงินจากสถาบันการเงินราว 2 พันลบ. เพื่อนำไปใช้สร้างโรงงานใหม่ซึ่งคาดทำให้ D/E เพิ่มจาก 1.2 เท่าเป็น 1.6 เท่า ขณะที่ความคืบหน้าการสร้างโรงงานผลิตและจำหน่ายยางในประเทศโกตติวัวร์ยังอยู่ระหว่างรอรัฐบาลโกตดิวัวร์อนุมัติกำลังผลิตของโรงงานซึ่งยังล่าช้ากว่าที่คาดพอสมควร ขณะที่มาตรการ EUDR ที่จะบังคับใช้ปีหน้าได้เตรียมปรับปรุงโรงงานขนาดเล็กที่บุรีรัมย์รองรับแล้วซึ่งจะมีกำลังผลิตราว 1 แสนตัน

ปิดความเห็น บน 6 โบรกมั่นใจ “NER” แนวโน้มโตตามเป้า

ชลิต อินดัสทรีฯ ร่วม ประมงสมุทรสาคร สร้างสมดุลระบบนิเวศ สานต่อ “ชลิต อินดัสทรี รักษ์เล ปล่อยปลา คืนสู่ธรรมชาติ” ปี 3

ชลิต อินดัสทรีฯ ร่วม ประมงสมุทรสาคร สร้างสมดุลระบบนิเวศ สานต่อ “ชลิต อินดัสทรี รักษ์เล ปล่อยปลา คืนสู่ธรรมชาติ” ปี 3

Posted on 27 กุมภาพันธ์ 2025 by writer

DSC_4464-1_resize

           แหล่งน้ำเป็นหัวใจสำคัญของระบบนิเวศที่หล่อเลี้ยงสิ่งมีชีวิต แต่ด้วยผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ  มลพิษ และการกระทำของมนุษย์ ทำให้ความสมดุลของระบบนิเวศถูกคุกคาม การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางแหล่งน้ำจึงเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ฟื้นฟูคุณภาพน้ำ หรือปกป้องระบบนิเวศชายฝั่ง เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่และสร้างอนาคตที่ยั่งยืน

          การปล่อยพันธุ์ปลาคืนสู่ธรรมชาติ เป็นอีกหนึ่งในแนวทางสำคัญในการฟื้นฟูระบบนิเวศและอนุรักษ์ความสมดุลของแหล่งน้ำธรรมชาติ ไม่เพียงช่วยเพิ่มจำนวนประชากรสัตว์น้ำ แต่ยังส่งเสริมความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ ทำให้สิ่งมีชีวิตต่างๆ ในห่วงโซ่อาหารสามารถดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วมของชุมชนและภาคธุรกิจในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติอยู่คู่กับคนรุ่นหลังได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

001_resize

          เพื่อร่วมเสริมสร้างสมดุลคืนสู่ธรรมชาติ  บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยาง ภายใต้แบรนด์ “POP” สานต่อโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อม “ชลิต อินดัสทรี รักษ์เล ปล่อยปลา คืนสู่ธรรมชาติ” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยได้รับความร่วมมือจาก สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสาคร จัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์ปลากะพงขาวกว่า 4,000 ตัว คืนสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูระบบนิเวศ สร้างสมดุลให้กับธรรมชาติ และส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน

          กิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำในโครงการ “ชลิต อินดัสทรี รักษ์เล ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ คืนสู่ธรรมชาติ” ปี 3 นี้ได้รับเกียรติจาก นายบรรพต จันทรวงษ์ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในพิธี ร่วมด้วย นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด, นายเผดิม รอดอินทร์ ประมงจังหวัดสมุทรสาคร และ นายสรวิชญ์ แซ่ลิ้ม นายกเทศมนตรีตำบลบางหญ้าแพรก อ.เมืองสมุทรสาคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจากบริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ได้แก่ นางสาวชัญญา ยงเห็นเจริญ, นางมนัสนันท์-นายอธิวัฒน์ เปรมพุฒิพันธ์ ที่นำทีมพนักงานบริษัท ชลิต อินดัสทรีฯ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในภารกิจเพื่อสังคมในครั้งนี้

002_resize

          นอกจากนี้ กิจกรรมดังกล่าวยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานท้องถิ่น ผู้นำชุมชน เกษตรกร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่หน่วยงานกรมประมงจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมแรงร่วมใจในภารกิจเพื่อสังคมและปล่อยพันธุ์ปลากระพงขาวกว่า 4,000 ตัว คืนสู่แหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อสร้างสมดุลให้กับธรรมชาติและระบบนิเวศทางทะเลให้คงอยู่อย่างยั่งยืน ณ บริเวณปากอ่าวตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร

          นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด กล่าวว่า กิจกรรม “ชลิต อินดัสทรี รักษ์เล ปล่อยปลา คืนสู่ธรรมชาติ” จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ถือเป็นส่วนหนึ่งของความตั้งใจของบริษัทฯ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูประบบนิเวศสู่ธรรมชาติ ส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงเสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับระบบนิเวศทางทะเล และเป็นโอกาสที่ดีที่ทางบริษัทฯได้มีส่วนร่วมกับทางภาครัฐและหน่วยราชการและก็ชุมชนท้องถิ่น บริษัทฯรู้สึกยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมดีๆ อีกทั้งยังเป็นการรณรงค์ให้พนักงานและประชาชนในพื้นที่เกิดความตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลและฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำแนวคิดในการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง

003_resize

          นายบรรพต จันทรวงษ์ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ขอชื่นชมทางบริษัท ชลิต อินดัสทรีฯ ที่มีจิตสาธารณะให้ความร่วมมือกับทางประมงจังหวัดสมุทรสาคร ในการปล่อยพันธุ์ปลากระพงเพื่อไปกําจัดกับหมอคางดำเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของทางประมงจังหวัดสมุทรสาคร ที่ต้องการรักษาระบบนิเวศและช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรที่เลี้ยงปลาพื้นบ้าน ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงาน องค์กรท้องถิ่น บริษัท ชลิต อินดีสทรีฯ และ ผู้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนกิจกรรมในครั้งนี้ และขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกันขับเคลื่อนต่อไป เพื่อความยั่งยืนของชุมชนและความสมดุลทางธรรมชาติ

ปิดความเห็น บน ชลิต อินดัสทรีฯ ร่วม ประมงสมุทรสาคร สร้างสมดุลระบบนิเวศ สานต่อ “ชลิต อินดัสทรี รักษ์เล ปล่อยปลา คืนสู่ธรรมชาติ” ปี 3

S__19079289_0_resize

TARIZ จับมือ UNIVERSAL ครั้งแรก! เจ้าแรกเจ้าเดียวเมืองไทย เปิดตัวคอลเลคชั่นเครื่องประดับ Jurassic World

Posted on 26 กุมภาพันธ์ 2025 by writer

S__19079366_resize

          NGG Jewellery ส่งแบรนด์ TARIZสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการเครื่องประดับไทย ด้วยการจับมือกับ UNIVERSAL ครั้งแรก! เปิดตัวคอลเลคชั่นสุดพิเศษ Jurassic World: To Be Explored New Terrain ถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย ความกล้าหาญ และการค้นพบ ผ่านดีไซน์พิเศษที่มีความโดดเด่นทั้ง 4 คาแรคเตอร์คือ 1. Jurassic World Logo 2. Tyrannosaurus Rex 3. Mosasaurus 4. Velociraptor อันเป็นเอกลักษณ์บนเครื่องประดับทองคำแท้ 99.9% พร้อมวางจำหน่ายแล้วที่ NGG jewellery ทุกสาขา
ทั่ว
ประเทศ และทุกช่องทางออนไลน์ 

S__19079336_resize

          นางสาวปัญจรัตน์ ทรัพย์หิรัญกุล ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ บริษัท เอ็นจีจี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด กล่าวว่า “ NGG Jewellery ในฐานะผู้นำด้านเครื่องประดับแท้ของขวัญจากธรรมชาติรวมศาสตร์และศิลป์แห่งเครื่องประดับ ทั้งเพชร ทองคำ อัญมณี และนาฬิกา ได้รับความไว้วางใจและอยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี ได้ร่วมมือกับ UNIVERSAL เพื่อนำเสนอคอลเลคชั่น Jurassic World: To Be Explored New Terrain เป็นครั้งแรกและหนึ่งเดียวในประเทศไทย คอลเลคชั่นนี้เปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางให้ผู้สวมใส่ได้ออกเดินทางสู่ดินแดนใหม่ ค้นพบเรื่องราวอันน่าทึ่ง ถ่ายทอดผ่านงานดีไซน์สุดประณีตและวัสดุคุณภาพสูง ด้วยทองคำแท้ 99.9% สร้างสรรค์โดยช่างฝีมือผู้ชำนาญการ แต่ละชิ้นสะท้อนเอกลักษณ์ของไดโนเสาร์แต่ละสายพันธุ์ได้อย่างลงตัว ”

S__19079285_0_resize

          ด้วย4 ดีไซน์พิเศษจากโลกจูราสสิคเครื่องประดับในคอลเลคชั่นนี้มาพร้อม 4 คาแรคเตอร์สุดไอคอนิกของ Jurassic World
1) Jurassic World Logo
สัญลักษณ์ของการผจญภัยและการค้นพบ ด้านหน้าสลักโครงกระดูก T-Rex ด้านหลังเป็นโลโก้ Jurassic World
2)Tyrannosaurus Rexราชานักล่าแห่งยุคครีเทเชียส สื่อถึงพลังและความสง่างาม ด้านหลังดีไซน์เป็นกราฟฟิคลายต้นสน สะท้อนถึงอาณาเขตของทีเร็กซ์
3)Mosasaurusเจ้าสมุทรแห่งยุคไดโนเสาร์ เป็นสัญลักษณ์ของพลังและความลึกลับ ด้านหลังประดับกราฟฟิคลายน้ำ
4) Velociraptorไดโนเสาร์นักล่าอัจฉริยะ ว่องไวและเฉียบแหลม ด้านหลังสลักกราฟฟิคลายภูเขา บ่งบอกถึงถิ่นฐานของแรปเตอร์

S__19079287_0_resize

          พร้อมด้วยงานศิลป์ที่บอกเล่าเรื่องราว ทุกชิ้นผลิตด้วยเทคนิค 3D Electroforming ที่ให้ความแข็งแรง น้ำหนักเบา ทนทาน ดีไซน์มาในรูปทรง Hexagon หรือ 6 เหลี่ยม เรียบง่ายแต่หรูหรา เพิ่มความคลาสสิกด้วยอีนาเมลสีน้ำตาลเข้ม สื่อถึงเสน่ห์ของดินแดนลึกลับที่รอการค้นพบ

S__19079288_0_resize

          “เตรียมตัวออกเดินทางสู่การผจญภัยครั้งใหม่ไปพร้อมกับ TARIZ และ Jurassic World ได้แล้ววันนี้!ที่ NGG jewellery ทุกสาขาทั่วประเทศ สั่งจองหรือดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.nggjewellery.com Facebook: NGG Jewellery  และ LINE OA: @nggjewellery สำหรับราคาน้ำหนักที่กำหนดไว้ได้อ้างราคาแบบ Real time ตามราคาตลาดโลก ซึ่งลูกค้าสามารถเช็คราคาได้ตามจริง”  ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ กล่าวในท้ายสุด

S__19079289_0_resize

ปิดความเห็น บน TARIZ จับมือ UNIVERSAL ครั้งแรก! เจ้าแรกเจ้าเดียวเมืองไทย เปิดตัวคอลเลคชั่นเครื่องประดับ Jurassic World

ผู้เชี่ยวชาญนิวซีแลนด์ แนะเทคนิคเขียนภาษาอังกฤษให้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด “ชัดเจน แม่นยำ เลี่ยงไวทยากรณ์ยาก” แนะเรียนภาษาที่นิวซีแลนด์เพื่อฝึกใช้ในชีวิตจริง

ผู้เชี่ยวชาญนิวซีแลนด์ แนะเทคนิคเขียนภาษาอังกฤษให้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด “ชัดเจน แม่นยำ เลี่ยงไวทยากรณ์ยาก” แนะเรียนภาษาที่นิวซีแลนด์เพื่อฝึกใช้ในชีวิตจริง

Posted on 26 กุมภาพันธ์ 2025 by writer

           การเขียนภาษาอังกฤษเชิงวิชาการไม่เพียงเป็นทักษะสำคัญสำหรับนักเรียนแค่ในโรงเรียนเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญสำหรับครูผู้สอนภาษาอังกฤษ นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะการเขียนเพื่อการสื่อสารทางวิชาการที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประกอบอาชีพหลังสำเร็จการศึกษา หรือการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น เช่น ปริญญาโทและปริญญาเอก ดังนั้น การเรียนรู้หลักการเขียนที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งจำเป็น

DSC_5023-1_resize

           มีเทคนิคการเขียนภาษาอังกฤษเชิงวิชาการที่น่าสนใจ ในงานสัมมนาวิชาการ ซึ่งจัดโดยสมาคมครูผู้สอนภาษาอังกฤษแห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (Thailand TESOL) ร่วมกับ หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) สถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย และ มหาวิทยาลัยลินคอล์น (Lincoln University) ประเทศนิวซีแลนด์ ภายใต้หัวข้อเรื่อง “Academic Writing: Key Principles for Success (การเขียนเชิงวิชาการ: หลักการสำคัญสู่ความสำเร็จ)” โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาจากนิวซีแลนด์ได้แบ่งปันแนวทางสำคัญในการพัฒนาการเขียนภาษาอังกฤษให้ชัดเจน ถูกต้องแม่นยำ และเข้าใจง่าย

           มร. เดริล สตรีท  (Mr. Daryl Streat) จากมหาวิทยาลัยลินคอล์น ประเทศนิวซีแลนด์ อดีตประธานสมาคม TESOL ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเทคนิคการเขียนเชิงวิชาการ:หลักการสำคัญสู่ความสำเร็จ (Academic Writing: Key Principles for Success) ว่า การเขียนเชิงวิชาการภาษาอังกฤษมีความสำคัญมากๆ ทั้งกับนักเรียนและคุณครูผู้สอนภาษาอังกฤษ เนื่องจากนักเรียนต้องเตรียมพร้อมให้เชี่ยวชาญในการเขียนเชิงวิชาการให้พร้อมสำหรับการประกอบอาชีพหลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย รวมถึงยังมีความสำคัญกับคุณครูผู้สอนเองด้วย เนื่องจากการเขียนเชิงวิชาการไม่ได้มีแค่ในโรงเรียน เช่น การเขียนรายงานและการเขียนงานวิจัยเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นได้ทุกที่ เช่น การเขียนรายงานการประชุม ดังนั้นคุณครูจึงต้องเตรียมการเรียนการสอนและแบบฝึกหัดการเขียนเชิงวิชาการให้นักเรียนได้ฝึกฝนสม่ำเสมอ และจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งถ้าคุณครูสามารถสอนและหาแบบฝึกหัดการเขียนเชิงวิชาการที่จะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพในอนาคตของนักเรียน เพราะการฝึกเขียนจะช่วยให้นักเรียนสามารถเขียนเรื่องราวได้กระชับ ชัดเจน และเป็นมืออาชีพ

            “อย่างไรก็ตาม การเขียนภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ มักพบปัญหาที่นักเรียนหลายคนเข้าใจผิดบ่อยครั้ง นั่นก็คือ การที่พวกเขาพยายามใช้ภาษาอังกฤษที่มีความซับซ้อนมากเกินไป และพยายามใช้หลักไวทยากรณ์ยากๆ ในการถ่ายทอดสิ่งที่จะสื่อสารผ่านตัวอักษรออกมาให้ผู้อ่านรับทราบ ทำให้เข้าใจยาก ผู้อ่านงานเขียนชิ้นนั้นๆไม่เข้าใจว่า ผู้เขียนต้องการจะบอกหรือจะสื่ออะไรกับผู้อ่าน ประเด็นหรือใจความสำคัญของเรื่องนี้คืออะไรกันแน่ อ่านแล้วไม่รู้ว่าเขากำลังเขียนอะไร  นอกจากนี้ ยังพยายามเขียนยาวเกินไป ซึ่งกลายเป็นน้ำมากกว่าเนื้อ ดังนั้น  นักเรียนควรจะเขียนงานออกมาให้มีโครงสร้างที่ชัดเจน สั้นกระชับได้ใจความจริงๆ เขียนสิ่งที่ต้องการบอกออกไปตรงๆ ง่าย ๆ จะทำให้ผู้อ่านเข้าใจสิ่งที่เขียนง่ายมากขึ้น หลีกเลี่ยงการใช้โครงสร้างไวทยากรณ์และภาษาที่ซับซ้อน อ่านแล้วเห็นแนวคิดของผู้เขียนได้ทันที” มร. เดริล สตรีท กล่าวและเสริมว่า

DSC_5274_resize

           เทคนิคการเขียนเชิงวิชาการนั้นดูเหมือนจะยาก แต่ก็มีเทคนิคการเขียนงาน “Academic Writing: Key Principles for Success (การเขียนเชิงวิชาการ: หลักการสำคัญสู่ความสำเร็จ)” ให้ดีเยี่ยมทั้งหมด 4 ข้อด้วยกัน ซึ่งเป็น 4 เทคนิคการเขียนเชิงวิชาการจากประสบการณ์ที่ มร. เดริล สตรีท ได้แนะนำให้กับนักเรียน เพื่อใช้ในการปรับปรุงพัฒนาการเขียนเชิงวิชาการของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น ได้แก่

  1. ความชัดเจนและความแม่นยำ นักเรียนจะต้องมีความชัดเจนว่า ตัวเองกำลังเขียนเรื่อง หรือประเด็นอะไรอยู่ แล้วถ่ายทอดเรื่องราว หรือประเด็นที่เขียนออกมาผ่านข้อความที่จำเป็นต้องใส่ เน้นเนื้อ ไม่เน้นน้ำ
  2. อ่านให้เยอะ เพราะการอ่านหนังสือเยอะ ๆ จะช่วยให้ผู้เขียนได้เห็นรูปแบบการเขียนเชิงวิชาการและการใช้สำนวนภาษาอังกฤษหลากหลายแบบ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เขียนสามารถนำมาเป็นแนวทางและปรับใช้ในการเขียนเชิงวิชาการของตัวเองให้ดียิ่งขึ้นและมีความน่าสนใจมากขึ้น
  3. การตระหนักรู้ในเรื่องที่เขียน การจะเขียนเชิงวิชาการผู้เขียนจะต้องรู้เรื่องหรือเชี่ยวชาญในสิ่งที่กำลังจะถ่ายทอดออกมาผ่านตัวอักษร และรู้จักการหาข้อมูลอ้างอิง นำมาสรุป และใช้เขียนประกอบบทความ เพื่อทำให้งานเขียนดังกล่าวนั้นถูกต้องและน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
  4. ความถูกต้องในเชิงวิชาการ สิ่งที่เขียนต้องเป็นข้อเท็จจริงและสามารถอ้างอิงได้

           นอกจากนี้ มร. เดริล สตรีท ยังให้คำแนะนำเพิ่มเติม สำหรับนักเรียนและคุณครูที่อยากเป็นคนเขียนเชิงวิชาการได้ยอดเยี่ยมและเป็นมืออาชีพ นั่นคือ ฝึกการเรียนรู้ด้วยตัวเอง โดยหาแหล่งข้อมูลดีๆ ไม่ว่าจะบนออนไลน์ หรืออฟไลน์ ฝึกทดสอบทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ ควรหาแบบทดสอบการเขียนมาฝึกบ่อยๆ รวมทั้งหมั่นฝึกเขียนบันทึกประจำวัน เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนการถ่ายทอดประเด็นให้ดีขึ้น และฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ เพราะเป็นสิ่งจำเป็นไม่เพียงเฉพาะในงานเขียนเท่านั้น แต่ยังจำเป็นสำหรับการสื่อสารนอกห้องเรียน เพราะต้องใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกับผู้คนท้องถิ่นในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารอีกด้วย

ENZ Teacher Seminar-3_resize

           ทั้งนี้ นิวซีแลนด์ถือเป็นประเทศที่นักเรียนต่างชาติ รวมถึงนักเรียนไทยนิยมไปเรียนภาษาอังกฤษมากเป็นอันดับต้นๆของโลก เนื่องจากช่วยให้การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเป็นไปอย่างก้าวกระโดด ด้วยวิธีการสอนที่เน้นการปฏิบัติ ฝึกฝนให้ใช้ในชีวิตจริง อีกทั้งผู้คนเป็นมิตร มีเพื่อนง่าย ทั้งในโรงเรียน มหาวิทยาลัย และสถาบันภาษาชั้นนำของนิวซีแลนด์ ครอบคลุมทุกระดับ สำหรับนักเรียนและผู้ใหญ่วัยทำงาน เพื่อการพัฒนาไปสู่การเรียนต่อ หรือการเพิ่มทักษะในการทำงานในหลายๆด้าน ทั้งพูด ฟัง อ่าน เขียน เพื่อให้มีความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษ   สำหรับผู้สนใจอยากจะพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพี่อการเรียนต่อที่ประเทศนิวซีแลนด์ มีโปรแกรมอบรมภาษาอังกฤษ Pathway โดยนักเรียนที่ยังสอบไม่ได้ระดับ IELTS เพื่อเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่นิวซีแลนด์สามารถเรียนจบและเข้ามหาวิทยาลัยได้เลย และเรียนภาษาอังกฤษที่นิวซีแลนด์ตอนนี้ยังสามารถผ่อน 0% ได้ 6 เดือนด้วยบัตรเครดิต KTC

ผู้สนใจโปรแกรมอบรมภาษาอังกฤษ Pathway นิวซีแลนด์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.learnenglishnewzealand.com

ปิดความเห็น บน ผู้เชี่ยวชาญนิวซีแลนด์ แนะเทคนิคเขียนภาษาอังกฤษให้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด “ชัดเจน แม่นยำ เลี่ยงไวทยากรณ์ยาก” แนะเรียนภาษาที่นิวซีแลนด์เพื่อฝึกใช้ในชีวิตจริง

NER ประกาศข่าวดียอดขายปี 2567 กำไร 1,652 ล้านบาท ผู้ถือหุ้นยิ้มรับปันผล ตั้งเป้าปี 2568 เติบโต 24 % หรือมีรายได้กว่า 34,000 ล้านบาท

NER ประกาศข่าวดียอดขายปี 2567 กำไร 1,652 ล้านบาท ผู้ถือหุ้นยิ้มรับปันผล ตั้งเป้าปี 2568 เติบโต 24 % หรือมีรายได้กว่า 34,000 ล้านบาท

Posted on 22 กุมภาพันธ์ 2025 by writer

NER CEO 04.02_resize

          NER ประกาศข่าวดียอดขายปี 2567 กำไร 1,652 ล้านบาท พร้อมจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.36 บาท รวม 665.20 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลร้อยละ 40.26 ของกำไรสุทธิ เผยปีนี้ (2568) เดินหน้ารุกธุรกิจพร้อมดันยอดผลิตและขายสินค้าสู่ 500,000 ตัน คิดเป็นรายได้ประมาณ 34,000 ล้านบาท หรือเติบโต 24 %

          นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ผู้ผลิตยางธรรมชาติชั้นนำระดับโลก ที่มุ่งสร้างคุณค่าและอนาคตที่ยั่งยืนให้กับทุกชุมชนที่มีเรา”ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางพาราในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม ตอบสนองความต้องการของผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์และผู้ค้าคนกลางทั้งในประเทศและต่างประเทศ เปิดเผยถึงผลประกอบการในปี 2567 ว่ามีปริมาณขาย 439,179 ตัน รายได้จากการขายรวมทั้งสิน 27,448.33 ล้านบาท แยกเป็นกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,652 ล้านบาท

          โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.36 บาท คิดเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 665.20 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลร้อยละ 40.26 ของกำไรสุทธิหลังจากหักเงินทุนสำรองตามกฎหมาย ซึ่งเมื่อหักเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงิน 92.39 ล้านบาท ที่จ่ายเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 คงเหลือเป็นเงินปันผลงวดสุดท้ายสำหรับผลประกอบการปี 2567 แก่ผู้ถือหุ้นเป็นเงินหุ้นละ 0.31 บาท คิดเป็นเงินรวมประมาณ 572.81 ล้านบาท โดยจ่ายจากกำไรส่วนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนทั้งหมด และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวจะถูกนำเสนอเพื่อขออนุมัติต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นที่จะมีขึ้นในครั้งถัดไป

          สำหรับปีนี้ (2568) บริษัทได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตว่าจะสามารถผลิตและก็ขายสินค้าประมาณ 500,000 ตัน คิดเป็นรายได้ประมาณ 34,000 ล้านบาท หรือเติบโต 24 % ” นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ กล่าวในท้ายสุด

ปิดความเห็น บน NER ประกาศข่าวดียอดขายปี 2567 กำไร 1,652 ล้านบาท ผู้ถือหุ้นยิ้มรับปันผล ตั้งเป้าปี 2568 เติบโต 24 % หรือมีรายได้กว่า 34,000 ล้านบาท

มีนาคม 2025
พฤ อา
« ก.พ.    
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31  

RELATED SITES