Archive | กุมภาพันธ์, 2021

“ชลิต อินดัสทรีฯ” จัดกิจกรรมทำบุญเสริมสิริมงคลบริษัทประจำปี 2564

“ชลิต อินดัสทรีฯ” จัดกิจกรรมทำบุญเสริมสิริมงคลบริษัทประจำปี 2564

Posted on 23 กุมภาพันธ์ 2021 by writer

DSC_9096-BD_resize_resize

          นายชวิศ ยงเห็นเจริญ  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอะไหล่ยางรถยนต์รายใหญ่ของไทย ร่วมด้วย นางสุชญา-นางสาววิมลลักษณ์ ยงเห็นเจริญ นำทีมคณะผู้บริหาร พร้อมด้วยพนักงาน จัดกิจกรรมส่งเสริมพุทธศาสนา ร่วมใจทำบุญบริษัทประจำปี 2564 ถวายภัตตาหารเพล และเครื่องจตุปัจจัยไทยทาน แด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน 9 รูป โดยได้อาราธนานิมนต์  พระราชพรหมาภรณ์ (ประวิทย์ สีหนาโท ป.ธ.๗) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดยานนาวา พระอารามหลวง และที่ปรึกษาเจ้าคณะเขตยานนาวา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มาเจริญพระพุทธมนต์ ประกอบพิธีทางศาสนา แสดงสัมโมทนียกถา โอวาทธรรม และฉันภัตตาหารเพล  ทั้งนี้เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล ให้บริษัทได้เจริญรุ่งเรือง และเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ผู้บริหาร –พนักงานในองค์กร ให้มีกำลังใจ สามารถปฏิบัติหน้าที่ให้บรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้ และเพื่อให้พนักงานได้มีส่วนร่วมในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอีกทางหนึ่ง รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์อันดีภายในองค์กรนับเป็นวันสำคัญที่บริษัทฯ ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปี ณ โรงงานบริษัทชลิต อินดัสทรีฯ บางแค กรุงเทพฯ

DSC_9060-1_resize

ทั้งนี้ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยางคุณภาพสูง ภายใต้แบรนด์ “POP” ด้วยการรับรองมาตรฐานระบบบริหารงานคุณภาพ (ISO9001) และได้รับใบรับรองอุตสาหกรรมสีเขียวจนได้รับการยอมรับและความไว้วางใจอย่างกว้างขวางจากอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ทั้งในและต่างประเทศ  ปัจจุบันมีศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์กระจายอยู่ในหลายภูมิภาคต่างๆ
ทั่วโลก ทั้งในเอเชียตะวันออก แอฟริกา ประเทศในตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย อเมริกาใต้ และ ยุโรปตะวันออก

ปิดความเห็น บน “ชลิต อินดัสทรีฯ” จัดกิจกรรมทำบุญเสริมสิริมงคลบริษัทประจำปี 2564

นายกสมาคมการตลาดฯ แนะรับมือโควิดรอบใหม่ เตรียมพร้อมในการใช้ S.T.R.O.N.G เป็นวัคซีนทางธุรกิจ

นายกสมาคมการตลาดฯ แนะรับมือโควิดรอบใหม่ เตรียมพร้อมในการใช้ S.T.R.O.N.G เป็นวัคซีนทางธุรกิจ

Posted on 22 กุมภาพันธ์ 2021 by writer

          เมื่อวิกฤติโควิด-19 กลับมารอบใหม่นับเป็นความท้าทายของภาคธุรกิจ ที่จะหาทางรับมือกับสถานการณ์วิกฤตินี้อีกครา คุณอนุวัตร เฉลิมไชย นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ได้ให้คำแนะนำเป็นแนวทางในการปรับเปลี่ยนเพื่อรับมือกับความท้าทายรอบใหม่นี้โดยมุ่งเน้นให้ทุกๆธุรกิจ เตรียมพร้อมในการใช้ S.T.R.O.N.G เป็นวัคซีนทางธุรกิจ เป็นแนวทางได้นำไปประยุกติ์ให้ต่อไป

PDF_DMA3_091263_compressed_Page_1_resize

          โดยใจความสำคัญของ S.T.R.O.N.G ที่นักการตลาดควรกลับมาทบทวนเพื่อสร้างความแข็งแกร่ง คือ

         1.SEARCH for what they want กลับมาดูที่ความต้องการของลูกค้าของเราอีกครั้ง ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง เราทำอะไรให้ตอบโจทย์ และช่วยแก้ปัญหาต่างๆให้ลูกค้าได้หรือเปล่า

         2.TRIM the fat ถึงเวลาลดความอ้วนขององค์กร ค่าใช้จ่ายไหนที่ไม่จำเป็น เราต้องลดลงให้ได้ หลายๆองค์กรที่ผ่านวิกฤติครั้งแรกมาได้ ก็ด้วยการ “ควบคุมต้นทุน” อย่างรัดกุม ดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ

         3.RELOOK at your CORE STRENGTH คำถามนี้ ไม่ได้ถามว่า เราเก่งธุรกิจอะไร แต่เป็นคำถามเพื่อให้เรากลับมามององค์กรของเรา ว่าอะไรคือจุดแข็งที่แท้จริงของเรา เมื่อถึงเวลาที่เราต้องปรับธุรกิจ ขอให้เราปรับอยู่บนพื้นฐานของความเก่งของเรา เช่น เคยเป็นบริษัทอีเว้น ความสามารถของเราคือ คนที่มี creativity & production skill เราก็เอาสิ่งนั้นมาใช้ต่อยอด หากเป็นโรงแรมหรือร้านอาหาร สิ่งที่มีคือความสามารถด้านการบริการและการทำอาหารอร่อยๆ แต่รูปแบบจะต้องเปลี่ยน หากเรามองกลับมาที่ตัว S แรก … ค้นหาดูดีๆว่าลูกค้าต้องการอะไร แล้วจุดแข็งของเราเอามาทำอะไรตอบโจทย์ได้บ้าง ก็น่าจะพอมองเห็นเส้นทางเดินต่อไปได้

         4.OPENMIND แต่การจะปรับได้แบบข้อที่กล่าวมาด้านบน ต้องอาศัย ตัว O นี้เป็นอย่างมาก หลายๆธุรกิจติดกับดักของความกลัวในใจของผู้บริหาร ไม่กล้าลอง ไม่กล้าเปลี่ยน ไม่เชื่อมั่นในการเปลี่ยนแปลง … หากจะรอด เราต้องเปิดใจ … ดร. ดร.ลักขณา ลีละยุทธโยธิน ที่ปรึกษา Brand’s Suntory ได้กล่าวไว้ในงาน Thailand Marketing Day 2020 ว่า “สำหรับการเปลี่ยนแปลง ต้องเปลี่ยนในขณะที่ยังเปลี่ยนได้ อย่ารอจนกว่าเราขยับไม่ได้ ใช้สัญชาตญาณในการทำงานเหมือนกับเด็กเล่นของเล่น ที่ไม่ต้องสอน ไม่ต้องอ่านคู่มือก็เล่นได้ เช่นเดียวกับเด็กที่ล้มก็ไม่เป็นไร ขอให้พยายามต่อ ล้มเร็ว ลุกเร็ว เรียนรู้เร็ว” หากเราไม่ลองทำอะไรใหม่ๆ เราก็จะได้แต่ผลลัพธ์เดิมๆ ธุรกิจจึงจำเป็นที่จะต้องเปิดใจแล้วสู้ต่อไป

S__30670851_resize

         5.NETWORK and COLLABORATION ในยุคนี้เป็นยุคแห่งการพึ่งพากันอย่างเป็นพันธมิตร ในปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการร่วมมือกันทางธุรกิจอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน นั่นเป็นเพราะหลายๆแบรนด์เริ่มเปลี่ยนมุมมองการทำธุรกิจ จากที่เคยมองทุกคนเป็นคู่แข่ง ก็เริ่มมองว่าเขามีจุดแข็งอะไรที่เราไม่มี แล้วเราจะมาจับมือร่วมกันรอดได้อย่างไร ยุคนี้ถึงตัวเราจะต้อง social distancing เพื่อความปลอดภัย แต่ในทางธุรกิจ เราต้องดึงเพื่อนของเราเข้ามาให้ใกล้กับเรายิ่งขึ้น ลองมองรอบๆตัวและหาพันธมิตรเพื่อโอกาสใหม่ๆในการเติบโตร่วมกันอย่างแข็งแกร่ง

         6.GROW your Skills and Experiences อย่ายึดติดกับความสำเร็จหรือความสามารถแบบเดิมๆ ในยุคนี้เราต้องมีไฟในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆและพร้อมที่จะก้าวออกจาก comfort zone แสวงหาประสบการณ์ที่จะมาเติมเต็มความสามารถของเรา คนทุกคนสามารถเติบโตได้ และทุกๆธุรกิจยังสามารถเติบโตได้ แต่เราต้องพร้อมที่จะรับโอกาสใหม่ๆเหล่านั้น ในโลกการตลาดยุคใหม่ ใครที่หยุดเรียนรู้เท่ากับกำลังเดินถอยหลัง ดังนั้น เรามาเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสกันนะคะ หากช่วงนี้ธุรกิจต้องหยุดชะงักไปบ้าง ก็เป็นเวลาที่จะได้ย้อนมาดูว่า เราจะพัฒนาบุคลากรและธุรกิจของเราต่อไปอย่างไรได้บ้าง มา Upskill & Reskill กัน

PDF_DMA3_091263_compressed_Page_3_resize

          สิ่งที่สำคัญที่สุดในการปรับองค์กรให้ S.T.R.O.N.G ในโลกการตลาดยุคใหม่ คือการปรับ mindset ควบคู่ไปกับ skillset ใหม่ๆที่จำเป็น โดยสมาคมการตลาดฯขอแนะนำหลักสูตร Digital Marketing In Action รุ่นที่ 3 หลักสูตรการตลาดดิจิตอลของสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทยนี้ครอบคลุมทุกหัวข้อสำคัญ 8 วัน 8 หัวข้อ โดยมี 10 ผู้เชี่ยวชาญในสายงานดิจิทัล จัดเต็มกันแบบจุใจ เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่การวางกลยุทธ์การตลาดแบบครบวงจร การสร้างความเข้าใจผู้บริโภคยุคใหม่ ทั้งการเจาะใจให้เข้าถึง ไปจนถึงการสร้างคอนเทนต์ให้มีคุณค่าด้วยเนื้อหาที่ตอบโจทย์และโดนใจลูกค้า เข้าใจความเปลี่ยนไปของช่องทางการตลาด  เข้าใจภาพรวมของแพลตฟอร์มใหม่ๆ รวมถึงกลยุทธ์หลักๆในการใช้ Digital Media ทั้งการวางแผนปฎิบัติการณ์ พร้อมเรียนรู้หลักการวาง KPI วัดผลสำเร็จ เรียนจริง ทำจริง รู้จริง กลับบ้านไป เอาไปทำได้จริง โดยเริ่มอบรม 6 มีนาคม – 3 เมษายน 2564  ณ VIE Hotel Bangkok สอบถามรายละเอียดและขอรับใบสมัครได้ที่โทร 02-679-7360-3 หรือ Line : @matsociety  ดูรายละเอียด และ ลงทะเบียนที่ : https://bit.ly/37Zya03

ปิดความเห็น บน นายกสมาคมการตลาดฯ แนะรับมือโควิดรอบใหม่ เตรียมพร้อมในการใช้ S.T.R.O.N.G เป็นวัคซีนทางธุรกิจ

มทร.ธัญบุรี ผนึก ม.ดังนิวซีแลนด์ เปิดหลักสูตรเร่งรัดเพื่อเด็กไทย ปรับพื้นฐานด้านธุรกิจ 8 เดือน มุ่งสู่ป.ตรีไฮบริดนิวซีแลนด์จบใน 3 ปี

มทร.ธัญบุรี ผนึก ม.ดังนิวซีแลนด์ เปิดหลักสูตรเร่งรัดเพื่อเด็กไทย ปรับพื้นฐานด้านธุรกิจ 8 เดือน มุ่งสู่ป.ตรีไฮบริดนิวซีแลนด์จบใน 3 ปี

Posted on 15 กุมภาพันธ์ 2021 by writer

          ธุรกิจ (Business Foundation Studies Programme) หลักสูตรเร่งรัดสำหรับนักเรียนไทยโดยเฉพาะ เรียนเตรียมปริญญาปี 1 นิวซีแลนด์ในเวลาเพียง 8 เดือน (เทียบเท่าป.ตรีปี 1) เพิ่มโอกาสให้เด็กไทยสามารถต่อปริญญาตรีแบบไฮบริดกับมหาวิทยาลัยระดับโลก หลังจากจบหลักสูตรเร่งรัดแล้วสามารถเรียนจบป.ตรีนิวซีแลนด์ได้ใน 3 ปี หลังเรียนจบป.ตรีที่นิวซีแลนด์ ยังสามารถทำงานต่อได้อีกสูงสุด 3 ปีเต็ม ผู้สนใจสมัครได้แล้ววันนี้ 30 เม.ย. 64  รับจำนวนจำกัด

DSC_9318-2_resize_resize

          เมื่อเร็วๆ นี้ ผศ.ดร.สมหมาย ผิวสะอาด อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญญบุรี หรือ RMUTT) ลงนามความร่วมมือทางออนไลน์ กับ ศาสตราจารย์ เฮเลน นิโคลสัน รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยโอทาโก ของนิวซีแลนด์ เปิดตัว หลักสูตรปรับพื้นฐานด้านธุรกิจ (Business Foundation Studies Programme)” หลักสูตรเตรียมปริญญาตรีเร่งรัด 8 เดือน ที่จัดขึ้นสำหรับนักเรียนไทยโดยเฉพาะเพื่อเพิ่มโอกาสให้กับนักเรียนไทยศึกษาต่อปริญญาตรีนิวซีแลนด์แบบไฮบริด (เรียนจบปริญญาตรีนิวซีแลนด์ใน 3 ปี)กับมหาวิทยาลัยติดอันดับโลกของนิวซีแลนด์ โดยข้อดีของหลักสูตรนี้ คือ

          – เรียนจบมัธยม 5 สามารถเรียนเตรียมปริญญาปี 1 นิวซีแลนด์ได้ทันทีที่ประเทศไทยแบบในชั้นเรียนจริงกับ RMUTT (30%)และเรียนออนไลน์กับมหาวิทยาลัยโอทาโก (70%) เป็นเวลา 8 เดือน

          – เริ่มเรียนได้ทันทีที่ไทย และเปลี่ยนเป็นบินไปเรียนนิวซีแลนด์ได้ทันทีเมื่อนิวซีแลนด์เปิดประเทศ

          – ใช้เวลาเรียนสั้นเพียง 8 เดือน นักศึกษาที่เรียนจบผ่านตามเกณฑ์ จะได้รับประกาศนียบัตรหลักสูตรพื้นฐานด้านธุรกิจ (เทียบเท่าปริญญาตรีปี 1)

          – ประกาศนียบัตรหลักสูตรพื้นฐานธุรกิจนี้จะเป็นใบรับประกันคุณสมบัติในการเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยโอทาโกและมหาวิทยาลัยอื่นๆในนิวซีแลนด์ ในสาขาวิชาพาณิชยศาสตร์บัณฑิต (BCom) ศิลปศาสตร์บัณฑิต (BA) และ ศิลปศาสตร์และพาณิชยศาสตร์บัณฑิต (BACom)

          – เป็นหลักสูตรมุ่งสู่ปริญญาตรีนิวซีแลนด์แบบไฮบริด (เรียนจบปริญญาตรีนิวซีแลนด์ใน 3 ปี)

          – ค่าเรียนถูกลง 20% เมื่อเทียบกับหลักสูตรปรับพื้นฐานของนิวซีแลนด์และหลักสูตรเตรียมความพร้อมอื่นๆ และยังประหยัดค่าครองชีพอื่นๆ เมื่อเทียบกับการเรียนที่นิวซีแลนด์ในปีแรก

          – มีทุนการศึกษา $10,000 ในระดับปริญญาตรีจาก University of Otago

          – หลังเรียนจบปริญญาตรีที่นิวซีแลนด์ยังสามารถทำงานต่อได้อีกสูงสุด 3 ปีเต็ม

IMG_6413-1_resize_resize

          ผศ.ดร.นาถรพี  ตันโช คณบดี คณะบริหารธุรกิจ มทร.ธัญญบุรี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาคณะบริการธุรกิจมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ในประเทศนิวซีแลนด์ผ่านสถานทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย นำไปสู่การจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ไทย-นิวซีแลนด์ที่ศูนย์นวัตกรรมและความรู้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีที่ DD Mall เขตจตุจักร กรุงเทพฯ และครั้งนี้ก็นับเป็นอีกหนึ่งความร่วมมืออีกขั้นที่เป็นประโยชน์มากสำหรับการร่วมกันพัฒนาการศึกษาและเพิ่มโอกาสใหม่ๆให้กับเด็กไทยเราในช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด และทาง RMUTT ก็หวังว่าจะได้เห็นความร่วมมือใหม่ๆในอนาคตกับทางการศึกษานิวซีแลนด์

          ศาสตราจารย์ เฮเลน นิโคลสัน รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยโอทาโก (Professor Helen Nicholson, Deputy Vice-Chancellor, Academic, University  of  Otago) กล่าวว่า ม.โอทาโก มีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ RMUTT ส่งมอบหลักสูตร Foundation Business Studies ให้กับนักศึกษาไทย ซึ่งเป็นการต่อยอดความร่วมมือจากโครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ไทย – นิวซีแลนด์ (TNZC) ในกรุงเทพฯ ที่เป็นโครงการริเริ่มด้านการศึกษาข้ามชาติที่สำคัญ ซึ่งช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้กับมหาวิทยาลัยโอทาโก การศึกษานิวซีแลนด์ และประเทศไทยให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และจะช่วยให้เราสามารถมอบโอกาสดีๆให้กับนักเรียนไทยต่อไป”

A3 PosterEN Layout 02_resize

          หลักสูตรปรับพื้นฐานด้านธุรกิจ (Business Foundation Studies Programme)เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ – 30 เม.ย. 64  (รับจำนวนจำกัด) ผู้สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดหลักสูตรได้ทาง  https://line.me/ti/p/%40nzenglish หรือฟังรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง New Zealand Embassy-Bangkok Facebook Live

ปิดความเห็น บน มทร.ธัญบุรี ผนึก ม.ดังนิวซีแลนด์ เปิดหลักสูตรเร่งรัดเพื่อเด็กไทย ปรับพื้นฐานด้านธุรกิจ 8 เดือน มุ่งสู่ป.ตรีไฮบริดนิวซีแลนด์จบใน 3 ปี

ชลิต อินดัสทรีฯ เปิดตัวสินค้า “ยางแท่นเกียร์”

ชลิต อินดัสทรีฯ เปิดตัวสินค้า “ยางแท่นเกียร์”

Posted on 10 กุมภาพันธ์ 2021 by writer

DSC_7743-1_resize_resize

          นายชวิศ ยงเห็นเจริญ  กรรมการผู้จัดการ นางสาววิมลลักษณ์ ยงเห็นเจริญ กรรมการและผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด นางสาวชัญญา ยงเห็นเจริญ และนางมนัสนันท์ เปรมพุฒิพันธ์ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอะไหล่ยานยนต์และอะไหล่ยาง ภายใต้แบรนด์  “POP” มากว่า 30 ปี ร่วมเปิดตัวสินค้า “ยางแท่นเกียร์” สำหรับใช้ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆที่ขับเคลื่อนล้อหน้า ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์สู่ตัวถัง มีความแข็งแรงในการรับน้ำหนักเครื่องยนต์ฯ และมีความยืดหยุ่นช่วยยืดอายุการใช้งานฯ ด้วยมาตรฐานระดับโลกมาตรฐานที่กำหนดได้เป็นอย่างดี ณ บริษัท ชลิต อินดัสทรีฯ เมื่อเร็วๆ นี้

ปิดความเห็น บน ชลิต อินดัสทรีฯ เปิดตัวสินค้า “ยางแท่นเกียร์”

“ชลิต อินดัสทรีฯ” แนะนำ “ยางแท่นเกียร์”

“ชลิต อินดัสทรีฯ” แนะนำ “ยางแท่นเกียร์”

Posted on 09 กุมภาพันธ์ 2021 by writer

Rear Engine Mounting 01_resize_resize

          บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอะไหล่ยานยนต์และอะไหล่ยางสำหรับใช้ในรถยนต์ภายใต้แบรนด์  “POP”  ขอแนะนำ “ยางแท่นเกียร์” เจาะตลาดรถยนต์ในกลุ่มสินค้าประเภทอะไหล่ทดแทนผสานนวัตกรรมล่าสุด  เป็นตัวกลางช่วยซึมซับแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์สู่ตัวถังให้น้อยที่สุด ชูคุณสมบัติที่โดดเด่นด้วยความแข็งแรงในการรับน้ำหนักของเครื่องยนต์กับเกียร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง  และมีความยืดหยุ่นช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ได้อย่างยาวนานขึ้น ด้วยมาตรฐานระดับโลกอีกด้วย

          ท่านใดที่สนใจสอบถามรายละเอียด “ยางแท่นเกียร์” ภายใต้แบรนด์  POP” ได้แล้วที่ร้านอะไหล่รถยนต์ชั้นนำใกล้บ้าน หรือดูรายละเอียดสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม website :  www.chalitindustry.com หรือโทร 02 8026400  หรือช่องทางEmail: info@chalitindustry.com

ปิดความเห็น บน “ชลิต อินดัสทรีฯ” แนะนำ “ยางแท่นเกียร์”

SIBA รับเทรนด์สายอาชีพมาแรง จัดสัมมนาครูแนะแนวออนไลน์

SIBA รับเทรนด์สายอาชีพมาแรง จัดสัมมนาครูแนะแนวออนไลน์

Posted on 08 กุมภาพันธ์ 2021 by writer

Banner_Webinar CO_Artboard 1 copy_resize

          อยากรู้ว่าอาชีพคนรุ่นใหม่สายอาชีพอะไรจะปังหลังโควิด-19  SIBA (วิทยาลัยอาชีวศึกษาสันติราษฎร์ในพระอุปถัมภ์ฯ) ร่วมกับ มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ และ สมาคมศิษย์เก่าพณิชยการสันติราษฎร์ในพระอุปถัมภ์ฯ ได้จัดงาน SIBA สัมมนาครูแนะแนวออนไลน์ เรื่อง “การแนะแนวเส้นทางการศึกษาสายอาชีพในยุคดิจิทัลหลังโควิด 19” โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในวันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 10.00-12.00 น. โดยมีวิทยากร คือ นายณรงค์ แผ้วพลสง ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา, ดร.เบญจมาภรณ์ คุณะรังษี ผู้อำนวยการ SIBA, นายโอม ศิวะดิตถ์ บจ.ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย), Mr. Lawrence Tan บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด, นายวัชระ นิลดำรง บริษัท C ASEAN จำกัด, นายณรงค์เดช จานทอง Executive Thai Chef, NOITHAICUISINE Bend OR.  ประเทศสหรัฐอเมริกา, นายณัฎฐเอก วุฒนุญาณ Software Engineer บริษัท อโกด้า เซอร์วิสเซส จำกัด, ดร.สนิท หฤหรรษวาสิน รองผู้อำนวยการ SIBA มาร่วมเสวนาออนไลน์เรื่อง  “อาชีพเด็กไทย..กำลังคนสำคัญสร้างชาติยุคดิจิทัลหลังโควิด” ติดตามได้ที่ลิงค์ FB Live http://bit.ly/39nvNGa และสามารถดูย้อนหลังได้เช่นกัน รายละเอียดที่ https://www.facebook.com/sibalive หรือ โทร. 02 9393000 / 092 290 3572

ปิดความเห็น บน SIBA รับเทรนด์สายอาชีพมาแรง จัดสัมมนาครูแนะแนวออนไลน์

“ดีป้า” สานต่อภารกิจสร้าง “ซีอีโอยุคใหม่” ผ่านหลักสูตรดิจิทัล ซีอีโอ รุ่นที่ 4 มุ่งส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี-นวัตกรรมดิจิทัล รับฐานวิถีชีวิตใหม่อย่างมั่นคง

“ดีป้า” สานต่อภารกิจสร้าง “ซีอีโอยุคใหม่” ผ่านหลักสูตรดิจิทัล ซีอีโอ รุ่นที่ 4 มุ่งส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี-นวัตกรรมดิจิทัล รับฐานวิถีชีวิตใหม่อย่างมั่นคง

Posted on 02 กุมภาพันธ์ 2021 by writer

AW_CDA_2 Poster_Print_Update

          21 มกราคม 2564, อาคารดีป้า ลาดพร้าวสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สานต่อหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital CEO) รุ่นที่ 4 พร้อมปรับเนื้อหาหลักสูตรเข้มข้น พุ่งเป้าสู่การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลในองค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน รองรับยุคนิวนอร์มอล หลังผ่านวิกฤตโควิด-19

          ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า ตามที่ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) มอบหมายให้ ดีป้า ดำเนินการผลักดันให้ทุกภาคส่วนเกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล รองรับยุคฐานวิถีชีวิตใหม่ (นิวนอร์มอล) ภายหลังวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) นั้น ดีป้า พร้อมเป็นฟันเฟืองสำคัญในการช่วยเปลี่ยนผ่านประเทศด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลไปใช้ในทุกมิติ เพื่อก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลอย่างมั่นคงและยั่งยืน

          โดย ดีป้า ได้สานต่อหลักสูตรอบรมผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ Digital CEO ที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 3 ปี ซึ่งได้รับความสนใจและมีผู้บริหารระดับสูงขององค์กรชั้นนำ ทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมอบรมรวม 230 คน โดยหลักสูตรดิจิทัล ซีอีโอ รุ่นที่ 4 ดีป้า ได้ปรับเนื้อหาหลักสูตรให้มีความเข้มข้นยิ่งขึ้น โดยหวังให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลในองค์กรภาครัฐและเอกชน เพื่อรองรับยุคนิวนอร์มอล หลังผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19

          ทั้งนี้ การอบรมจะมุ่งเน้นการส่งเสริมทักษะและองค์ความรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลในทุกมิติ ตลอดจนสามารถนำไปปรับใช้ในการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างมีประสิทธิผล และเกิดการบูรณาการความร่วมมือของผู้นำองค์กรแนวหน้า ที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กรและประเทศชาติ รวมทั้งเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารเพื่อเป็นเครือข่ายในการพัฒนาอนาคตของประเทศชาติ รวมถึงการสร้างเครือข่ายและการถอดแบบเรียนรู้ในประเทศกว่า 10 องค์กรและต่างประเทศในงาน World Expo ณ นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งผู้บริหารที่ผ่านการอบรมจะได้รับการพัฒนาองค์ความรู้ให้สอดคล้องกับโลกยุคปัจจุบันและอนาคต ก่อนนำไปประยุกต์ใช้กับองค์กรของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์-1_resize

          ทัศนะจากผู้สำเร็จการอบรมหลักสูตรดิจิทัล ซีอีโอ รุ่นที่ 3 อาทิ นายสมคิด จันทมฤก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า “การอบรมหลักสูตร Digital CEO 3 ทำให้ผมได้รับความรู้ มุมมองใหม่ๆ และประสบการณ์ที่หลากหลาย เกี่ยวกับเทคโนโลยี การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงาน และชีวิตประจำวัน จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากการดูงานในหน่วยงาน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของผู้เข้ารับการอบรมด้วยกันเอง  ซึ่งทำให้ผมได้เรียนรู้วิธีคิดที่ดีในการนำเทคโนโลยีมาใช้กับการปรับปรุงทำงานในหน่วยงานของรัฐได้เป็นอย่างดี”

          สำหรับ นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน หนึ่งในผู้ร่วมการอบรม กล่าวว่า “ผู้บริหารท้องถิ่น มาจากการเลือกตั้ง เมื่อประชาชนต้องการความสะดวก ความรวดเร็ว ความทันสมัยในการบริการ มักติดอยู่ในกรอบของระบบราชการ ระเบียบแบบแผนที่ล้าสมัย หลังจากที่ได้มารับการอบรม หลักสูตร Digital CEO 3 ความสามารถในการกล้าคิดและทำออกนอกกรอบ ด้วยความรู้จากวิทยากร การแบ่งปันประสบการณ์จากการศึกษาดูงาน ผู้เข้าร่วมรับการอบรมทั้งจากภาครัฐและเอกชนเป็นภาคีเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็งมาก” ส่วน นพ.ณรงค์ ธาดาเดช อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุดรธานี เปิดใจว่า “ได้รับความรู้และมุมมอง ทิศทางการปรับตัวขององค์การต่างในการนำระบบดิจิทัลมาใช้เพื่อผู้มารับบริการสามารถเข้าถึงได้ทุกเวลา ทุกสถานที่และผู้ให้บริการก็จะสะดวกลดความซ้ำซ้อน เป็นความจำเป็นของหน่วยงานโดยเฉพาะผู้บริหารที่จะต้องมาเรียนรู้รองรับการเปลี่ยนแปลงของยุคดิจิตอลเป็นหลักสูตรที่ต้องมาเรียน”  สำหรับภาคเอกชน เช่น สพ.ญ.กฤติกา ชัยสุพัฒนากุล ประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ กล่าวว่า “ประโยชน์จาก Digital CEO ช่วยขยายวิสัยทัศน์ และ update สถานการณ์ ไม่เฉพาะด้าน digital แต่ได้เรียนรู้การบริหารงานสมัยใหม่สามารถเอามาปรับใช้ได้จริงที่สำคัญเพื่อนดีมากค่ะ” และ นายไพฑูรย์ จิรานันตรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า “ได้ความรู้จากวิทยากรที่มีความรู้ หลากหลาย โดยเฉพาะเรื่อง Digital Technology & Digital Transformation ทั้งยังได้เข้าเยี่ยมชมในหน่วยงานต่างๆที่เวลาปกติไม่สามารถเข้าไปดูได้ นอกจากนี้ที่สำคัญที่สุดคือได้ connection ได้รู้จักพี่ๆเพื่อนๆน้องๆเพื่อจะได้ติดต่อกันทั้งเรื่องส่วนตัวและธุรกิจในอนาคตด้วย” ส่วน ดร.นพ.ตุลวรรธน์ พัชราภา ผู้อำนวยการปฏิบัติการ โรงพยาบาลเวชธานี เผยว่า “ผู้นำยุคดิจิทัล ไม่ได้หมายถึงผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิตอล หากแต่คือผู้ที่สามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างคุณค่าให้กับองค์กรและประเทศชาติได้อย่างคุ้มค่า การเรียนในหลักสูตรดิจิทัลซีอีโอจะทำให้ผู้เรียนเข้าใจเทคโนโลยีดิจิทัลในระดับที่สามารถนำไปวางกลยุทธ์การใช้เทคโนโลยีได้ และได้เรียนรู้จากตัวอย่างกรณีศึกษาจริงจากประสบการณ์จริงของวิทยากร รวมถึงการสร้างเครือข่ายกับผู้นำยุคดิจิทัลจากหลากหลายองค์กรด้วย”

Speaker-CEO4_resize-1

          สำหรับการอบรมหลักสูตรดิจิทัล ซีอีโอ รุ่นที่ 4 มีกำหนดการอบรมระหว่างวันที่ 23 เมษายน – 12 พฤจิกายน 2564 ซึ่งผู้บริหารองค์กรที่สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัครและติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง https://www.depa.or.th/th/digitalceo โทร 0-2026-2333 ต่อ 4102, 4106, โทร 095-469-9441 หรือ อีเมล DEA@depa.or.th

#depa #DigitalCEO #DCEO #DCEO4 #DigitalThailand

ปิดความเห็น บน “ดีป้า” สานต่อภารกิจสร้าง “ซีอีโอยุคใหม่” ผ่านหลักสูตรดิจิทัล ซีอีโอ รุ่นที่ 4 มุ่งส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี-นวัตกรรมดิจิทัล รับฐานวิถีชีวิตใหม่อย่างมั่นคง

กุมภาพันธ์ 2021
พฤ อา
« ม.ค.   มี.ค. »
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728

RELATED SITES