Categorized | ข่าว

แนวทางส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี (Wellbeing-ness) ผ่านระบบการศึกษาโลกดิจิทัลในยุคโควิด

Posted on 26 มกราคม 2022 by writer

0013_Studyinnewzealand_ThinkNEW_resize

          สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID –19 ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาทั้งการจัดการเรียนการสอน การเรียนรู้ การวัดและประเมินผล นอกจากนี้ยังส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้ประชาชนจากทั่วทุกประเทศมีมีรายได้น้อยลง จนส่งผลคุณภาพชีวิตที่ต่ำลงด้วย ดังนั้นเป้าหมายของการพัฒนามนุษย์ในภาพกว้าง คือ การมุ่งสร้างความเป็นอยู่ที่ดี (Wellbeing – ness) นอกจากจะสัมพันธ์โดยตรงกับเศรษฐกิจแล้ว ยังสัมพันธ์กันกับความสามารถและประสิทธิภาพในการเรียนรู้ของผู้เรียนอีกด้วย กล่าวคือ ความเป็นอยู่ที่ดีของแต่ละคนสามารถเกิดขึ้นได้จากการมีความรู้สึกทางจิตใจที่ดี และความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันที่ดี ซึ่งคุณครู เพื่อน โรงเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนต่างก็มีส่วนประกอบสร้างและเป็นตัวแปรสำคัญที่จะกำหนดว่าผู้เรียนแต่ละคนจะมีความสุข มีความเป็นอยู่ที่ดีทั้งทางกายภาพ การใช้ชีวิต และสุขภาพจิตที่ดีหรือไม่ ระบบการศึกษาจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับสภาวะความเป็นอยู่ที่ดีของผู้เรียน และสอดผสานความเป็นอยู่ที่ดี (Wellbeing-ness) ให้แก่ผู้เรียนผ่านกระบวนการจัดการเรียนรู้ในโลกดิจิทัล

          ศาสตราจารย์ สตีเฟ่น ด็อปสัน (Prof. Stephen Dobson) จากมหาวิทยาลัยวิคตอเรีย (Victoria University of Wellington) ประเทศนิวซีแลนด์ บรรยายในงาน EDUCA หัวข้อเรื่อง “Learning and Assessing Wellbeing-ness in an Age of Global Educational Change Workshop” ได้อธิบายถึงแก่นสำคัญของการสร้างความเป็นอยู่ที่ดี คือ การสร้างให้ผู้เรียนมีทักษะในการเรียนรู้ทางอารมณ์และสังคม อันประกอบไปด้วย

Prof. Stephen Dobson_resize

  • การรู้จักตนเอง (Self – awareness) คือ การรู้เท่าทันสภาวะอารมณ์ของตนเองต่อเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี และสามารถประเมินได้ว่า สิ่งใดคือจุดแข็งของตนเอง และสิ่งใดคือข้อจำกัดทางอารมณ์ของตนเอง
  • การจัดการตนเอง (Self – management) คือ ความสามารถในด้านการควบคุมอารมณ์ ความรู้สึก ตลอดจนพฤติกรรมของตนเองเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ใดๆ ที่ต้องการให้เกิดขึ้น เพราะการไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ก็สามารถทำให้เราล้มเหลวในสิ่งที่ต้องการในทุก ๆ เรื่อง ไม่ใช่แค่เรื่องการเรียน
  • การรู้จักสังคม (Social – awareness) คือ การที่ผู้เรียนในฐานะมนุษย์คนหนึ่งสามารถรู้สึกและแสดงออกถึงความเข้าใจและเห็นใจต่อผู้อื่นในสังคม
  • การตัดสินใจอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible decision – making skills) คือ การสร้างหลักการทางจริยธรรม หรือสร้างตัวเลือกในการตัดสินใจด้วยดุลยพินิจตนเอง ทั้งในเรื่องส่วนบุคคลและปรากฏการณ์ทางสังคม โดยคำนึงถึงผลที่ตามมา และมีความรับผิดชอบ
  • ทักษะการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี (Relationship Skills) คือการรู้จัก ปรับตัว และพยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับบุคคลอื่นรอบ ๆ ตัว รวมถึงมีความสามารถในการทำงานร่วมกันกับผู้อื่น มีความสามัคคี และสามารถรับมือกับความขัดแย้งได้อย่างฉลาด

          ศาสตราจารย์ สตีเฟ่น กล่าวเพิ่มเติมว่า ครูสามารถนำทักษะทางสังคมข้างต้นนี้ไปใช้สอนได้ด้วยการเริ่มจากตัวเองที่ให้ความสำคัญกับการเป็นอยู่ของผู้เรียน โดยเริ่มตั้งแต่การจดจำชื่อของนักเรียนให้ได้ หมั่นถามความรู้สึกนึกคิดของผู้เรียนเสมอ นอกจากนั้นยังสามารถใช้การตั้งคำถาม เปิดโอกาสให้นักเรียนได้คิด พูดแสดงความรู้สึก เหตุผล วิเคราะห์คำตอบ รับฟังความคิดเห็นผู้อื่น และรู้เท่าทันความคิดความรู้สึกตัวเองในทุกๆ กิจกรรมที่ได้เรียนรู้ ส่วนการทดสอบว่าผู้เรียนมี “ความเป็นอยู่ที่ดี” หรือไม่นั้น สามารถวัดและประเมินผลได้จากทั้งสภาพแวดล้อมภายนอกและการแสดงพฤติกรรมที่ครูสามารถสังเกตได้ เช่น ปริมาณการกลั่นแกล้งกันในโรงเรียน (bullying) ที่ลดลง รวมถึงผู้เรียนมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี มีความสุข พอใจในการดำรงชีวิต มีโภชนาการที่ดี ฯลฯ

073_Studyinnewzealand_Schools_resize

          “อย่างไรก็ตาม การวัดและประเมินผลดังกล่าวในช่วงการเรียนการสอนแบบออนไลน์เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เนื่องจากการเว้นระยะห่างทางสังคม และการเรียนผ่านเทคโนโลยีที่เป็นสื่อกลาง  ดังนั้นครูอาจจะให้นักเรียนทำกิจกรรมและส่งงานสะท้อนตัวตน พร้อมอธิบายว่าตนเองเป็นใครผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่นักเรียนชอบอย่าง TikTok  อีกทั้งยังต้องให้ผู้เรียนมีโอกาสพูดคุยกับครอบครัว หรือใส่ใจกับธรรมชาติรอบตัวเพิ่มขึ้น” ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำทักษะทางสังคมและอารมณ์นี้ไปใช้พัฒนาตนเอง ตลอดจนปรับเปลี่ยนสภาพความเป็นอยู่ของชีวิตตนเองให้ดีที่สุดเท่าที่จะสามารถกระทำได้ ไม่ว่าชีวิตจะเผชิญกับสถานการณ์ท้าทายอะไรก็ตาม” ศาสตราจารย์ สตีเฟ่นให้คำแนะนำ

          ประเทศนิวซีแลนด์ ถือเป็นหนึ่งประเทศที่รัฐบาลให้ความสำคัญและมียุทธศาสตร์ความเป็นอยู่ที่ดี (Wellbeing – ness) ของเด็กและเยาวชนอย่างชัดเจน  นางสาวช่อทิพย์ ประมูลผล  ผู้อำนวยการ ประจำประเทศไทย หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า การศึกษามีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของเด็กและเยาวชน การเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ บริการด้านสุขภาพและสังคม ที่อยู่อาศัยและอาหาร ตลอดจนความรู้สึกเป็นที่รัก ปลอดภัย และมั่นคงภายในครอบครัวและชุมชนของเด็ก ล้วนมีความสำคัญต่อความเป็นอยู่ที่ดีของเด็กและเยาวชนทุกคน

ช่อทิพย์ ประมูลผล-2_resize

          ทั้งนี้ ประเทศนิวซีแลนด์ มียุทธศาสตร์ความเป็นอยู่ที่ดี (Wellbeing – ness) ของเด็กและเยาวชนอย่างชัดเจน โดยกำหนดความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับสิ่งที่สำคัญสำหรับสวัสดิภาพเด็กและเยาวชน พร้อมให้กรอบการทำงานที่เป็นหนึ่งเดียวและแนวทางในการปรับความพยายามของรัฐบาลให้สอดคล้องกัน เพื่อเป็นแนวทางในการทำงานของประเทศ ได้ตั้งวิสัยทัศน์โดยมีเป้าหมายให้นิวซีแลนด์เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับเด็กและเยาวชน โดยมุ่งเน้นไปที่เด็กนิวซีแลนด์ทุกคนที่อายุต่ำกว่า 25 ปี ให้มีผลลัพธ์ความเป็นอยู่ที่ดี 6 ประการ ที่แสดงให้เห็นว่าเด็กและคนหนุ่มสาวต้องการอะไรสำหรับชีวิตที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดีมีความหมายต่อเด็กและเยาวชน  อันประกอบด้วย 1.เด็กและเยาวชนได้รับการเลี้ยงดูอย่างปลอดภัย 2.เด็กและเยาวชนมีสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต 3.เด็กและเยาวชนมีความสุขและมีสุขภาพแข็งแรง 4.เด็กและเยาวชนได้รับเรียนรู้และพัฒนา 5.เด็กและเยาวชนเป็นที่ยอมรับ เคารพ และเห็นคุณค่าในบ้าน โรงเรียน และชุมชน รวมถึงชุมชนในโลกออนไลน์ และ 6. เด็กและเยาวชนมีส่วนร่วมที่บ้าน โรงเรียนและในชุมชนของเขา

Comments are closed.

มกราคม 2022
พฤ อา
« ธ.ค.   ก.พ. »
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31  

RELATED SITES